สระแก้ว - "บิ๊กโจ๊ก" ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว รับตัวคนไทยถูกหลอกไปทำงานประเทศเพื่อนบ้านอีก 143 ราย
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (3 ธ.ค.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรองผู้อํานวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สานักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อรับคนไทยที่ถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
หลังได้มีการประสานไปยังสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และผู้ช่วยทูตตำรวจไทย ประจำประเทศกัมพูชา เพื่อให้การช่วยเหลือเหยื่อคนไทยกลับประเทศอีกจำนวน 143 คน
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เผยว่า่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลถึงเครือขายผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่าั เป็นกลุ่มอาชญากรข้ามชาติและสามารถจับกุมตวได้แล้ว 2-3 ราย ซึ่งคนกลุ่มนี้ถือโอกาสที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงระบาดโควิด-19 จึงก่อเหตุหลอกลวงผู้ที่กำลังเดือดร้อนบังคับใช้แรงงานและทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ
โดยการกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ และกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในสังคม และในวันนี้เจ้าหน้าที่กัมพูชาสามารถช่วยเหลือคนไทยจากหลายพื้นที่ เช่น กรุงพนมเปญ เมืองสวายเรียง เมืองกําปอต และกรุงปอยเปต กลับประเทศได้อย่างปลอดภัย
“จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าขบวนการดังกล่าวมีชาวจีนเป็นหัวหน้าและเคลื่อนไหวอยู่ในกรุงพนมเปญ และอีกหลายจังหวัดของกัมพูชา ซึ่งมีพฤติการณ์ลงโฆษณารับสมัครงานบนสื่อออนไลน์ทั้ง เฟซบุ๊ก และกลุ่มไลน์หลอกลวงว่ามีงานในประเทศกัมพูชา จ่ายค่าตอบแทนสูงเดือนละ 20,000-30,000 บาท หลังมีผู้หลงเชื่อจะว่าจ้างขบวนการนำพาออกประเทศโดยผิดกฎหมาย”
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะมีการกวดขันโรงแรมหรือสถานที่พักพิงที่ร่วมมือกับขบวนการนี้ และเตือนคนที่ยังไม่ได้เดินทางไปทำงานในกัมพูชาว่า งานในลักษณะที่มีการโฆษณาไม่มีอยู่จริง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังขอความร่วมมือประชาชนที่พบเห็นพฤติการณ์ของขบวนการดังกล่าวให้แจ้งเบาะแสยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ
หรือแจ้งมาได้ที่ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามกํารค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) หรือศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) โทร.1599 เพื่อให้การช่วยเหลือและดำเนินคดีต่อผู้กระทาผิด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การช่วยเหลือคนไทยถูกหลอกให้เดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ว่ามีจำนวน 146 คน แต่เมื่อเวลาเดินทางจริงกลับมีจำนวนเพียง 143 ราย ส่วนอีก 3 รายหายตัวไป โดยได้รับแจ้งว่าเป็นการหลบหนีเพื่อกลับไปทำงานต่อเนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มชาวจีน ที่มีการเสนอเพิ่มเงินค่าตอบแทนให้มากกว่าเดิม