ลำปาง/อุตรดิตถ์ - พี่สาวเดินทางจากอุตรดิตถ์ร้องสื่อฯ ถึงลำปาง..หลังน้องชายตายปริศนาจนฝ่ายเมียที่ไม่จดทะเบียนสมรสเผาไปแล้ว แต่เบิกเงินช่วยเหลือเยียวยาจากประกันสังคมไม่ได้ ถึงแจ้งให้มาเซ็นเอกสาร แถมเห็นภาพศพถูกพันเหมือนมัมมี่
วันนี้ (1 ธ.ค. 64) นางเอื้องดอย คงนวล อายุ 46 ปี ชาว ต.วังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ รับมอบอำนาจจากนายชิง มะตัน บิดา นั่งรถโดยสารเดินทางมาที่ลำปาง เพื่อร้องสื่อฯ-หาทางเดินเรื่องรื้อฟื้นคดี หลังนายชิงเพิ่งทราบว่าลูกชายคือ นายสกายแลป มะตัน อายุ 42 ปี เสียชีวิตและศพถูกเผาไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 และเพิ่งเห็นภาพศพของลูกชาย ซึ่งถูกไฟไหม้และพันตัวคล้ายมัมมี่จนรับไม่ได้
นางเอื้องดอยบอกว่า ที่ผ่านมาพ่อกับน้องมักจะทะเลาะกัน ทำให้น้องไม่ค่อยกลับมาเยี่ยมบ้าน บางครั้งก็ 3 ปีถึงกลับไปบ้านครั้งหนึ่ง ส่วนใหญ่ช่วงเทศกาลเท่านั้น ซึ่งทางบ้านไม่ทราบเลยว่าน้องชายป่วย-รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล จนกระทั่งเสียชีวิตและมีการเผาศพไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา
กระทั่งวันที่ 27 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา น้องสาวตนได้รับการติดต่อจากน้องสะใภ้ว่าน้องชายของตนได้เสียชีวิตแล้วเนื่องจากแพ้สารเคมี และขอให้พาพ่อ-พี่สาวเดินทางจากอุตรดิตถ์มาที่ลำปางเพื่อให้มาเซ็นเอกสารรับเงินประกันสังคมที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดลำปาง โดยน้องสะใภ้จะเป็นผู้มารับที่สถานีขนส่งแต่จะขอเงินคนละครึ่ง
หลังจากนั้นน้องสาวจึงส่งข้อมูลทั้งหมดมาให้ ตนจึงได้เห็นภาพศพของน้องชายที่มีสภาพถูกพันด้วยผ้ากอซทั้งตัวคล้ายมัมมี่ และบริเวณใบหน้ามีรอยดำไหม้ จึงทำให้สงสัยว่าสาเหตุของการเสียชีวิตของน้องชายไม่น่าจะใช่การแพ้สารเคมีตามที่น้องสะใภ้บอก แต่ดูตามลักษณะแล้วน่าจะเกิดจากถูกไฟไหม้หรือถูกน้ำร้อนลวก และเมื่อขอเอกสารการชันสูตรพลิกศพของแพทย์น้องสะใภ้ก็ไม่ยอมให้
และเมื่อพ่อของตนทราบว่าลูกชายได้เสียชีวิตแล้วและเห็นภาพศพของลูกถึงกับช็อกเป็นลม ก่อนมอบอำนาจให้ตนเดินทางมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับสาเหตุการตายของน้องชาย
“ถึงแม้พ่อลูกจะทะเลาะกัน แต่ความเป็นพ่อยังไงก็ตัดลูกไม่ได้ ลูกเขาตายทั้งคน เขามีพ่อมีพี่มีน้องทำไมถึงไม่บอก มาบอกตอนนี้เพราะเบิกเงินจากประกันสังคมไม่ได้ใช่ไหม หากไม่มีเรื่องนี้ทางบ้านก็คงยังไม่ทราบว่าน้องตาย คงคิดว่าน้องชายอยู่ดีกินดีแล้ว แม้จะไม่ค่อยกลับไปเยี่ยมบ้านเลยก็ตาม แต่ก็เหมือนมีลางอะไรบางอย่างเหมือนกัน เพราะน้องชายได้มาเข้าฝันบอกฉันว่าร้อนแค่นั้น พอเห็นรูปศพที่ถูกพันแบบมัมมี่และใบหน้าก็ดำคล้ายคนถูกเผาหรือไม่ก็โดนน้ำร้อนลวก ก็คิดว่าคงไม่ใช่แพ้สารเคมีแน่ เห็นแล้วสงสารน้องมากคงทรมาน”
นางเอื้องดอยบอกอีกว่า เบื้องต้นจากการเข้าไปตรวจสอบและสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ทราบว่ามีผู้มาแจ้งเพื่อให้ทาง สภ.เมืองลำปางออกใบรับรองการเสียชีวิตของนายสกายแลป น้องชายตน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 64 แล้วด้วยซ้ำ
และเมื่อสอบถามไปยังบริษัทซึ่งซับงานจากบริษัทปูนซิเมนต์ไทย ลำปาง ที่นายสกายแลปทำงานก่อนหน้านั้น ทำให้ทราบว่าทางบริษัทเชื่อโดยสนิทใจว่าครอบครัวของนายสกายแลปทราบเรื่องแล้ว เนื่องจากภรรยาซึ่งไม่ได้จดทะเบียนได้แจ้งว่าไม่สามารถติดต่อครอบครัวของผู้ตายได้
จนกระทั่งใกล้ถึงวันเผาภรรยาผู้ตายได้บอกอีกว่าได้ติดต่อทางน้องชายผู้ตายแล้ว และระบุว่าทางครอบครัวไม่ติดใจให้เผาได้เลย บริษัทจึงช่วยดำเนินการทุกอย่าง พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือทางบ้าน-ดูแลเรื่องหนี้สินทุกอย่างให้ เพราะเข้าใจว่าทางครอบครัวของนายสกายแลปทราบเรื่องและยินยอมให้เผาศพแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ทราบเรื่องถึงกับงงไปตามๆ กันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ และจะได้เร่งทำการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อคืนสิทธิให้แก่พ่อผู้ตาย ซึ่งยังมีชีวิตอยู่และเป็นผู้มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย