xs
xsm
sm
md
lg

ภาคเอกชนอุดรฯ ขอบคุณ “พล.อ.ประยุทธ์” ช่วยดันจัดพืชสวนโลก พร้อมเสนอแผนพัฒนาลอจิสติกส์รับรถไฟจีน-ลาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุดรธานี - ภาครัฐ-ภาคเอกชนขอบคุณ “พล.อ.ประยุทธ์” เดินทางหารือทิศทางการพัฒนาจังหวัดอุดรธานี รอง ปธ.หอไทยเสนอนายกฯ 7 ข้อเร่งพัฒนาคมนาคม-ลอจิสติกส์รับรถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว นายกฯ ชี้นิคมอุตสาหกรรมอุดรฯ ต้องเป็นอุตสาหกรรมใหม่ ส่วนระบบขนส่งทางรางหรือรถไฟความเร็วสูงไม่เอาแบบการให้สัมปทาน แต่ไทยจะต้องเป็นคนสร้างเองเพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วมาก


เมื่อเวลา 11.15 น. วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมภายในศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ ถ.ทองใหญ่ เทศบาลนครอุดรธานี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี และผู้แทนกระทรวงฯ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมการร่วมหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาจังหวัดอุดรธานี และแผนเปิดเมือง "อุดร พลัส โมเดล" ของจังหวัดอุดรธานี โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นายสมศักดิ์ จันตระกูล ผู้ว่าราชการ จ.ขอนแก่น นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการ จ.หนองคาย นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการ จ.หนองบัวลำภู นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง, หอการค้า, สภาอุตสาหกรรม, ชมรมธนาคาร, สมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยว, ผู้ประกอบการค้า บริการ อุตสาหกรรม ในพื้นที่เข้าร่วมประชุม โดยเริ่มจากนำเสนอศักยภาพของอุดรธานีผ่านวิดีทัศน์

ในที่ประชุมเริ่มต้นโดยนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ พบผู้ติดเชื้อต่อวันต่ำกว่า 100 คนมากกว่า 1 เดือน และได้ปิด รพ.สนามไปทั้งหมดแล้ว การฉีดวัคซีนก็เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งอุดรฯ ลดระดับจากสีแดงมาเป็นสีส้ม นักเรียนเริ่มไปโรงเรียนได้ และได้รับคัดเลือกเป็นจังหวัดนำร่องพื้นที่ “แซนด์บ็อกซ์” 6 อำเภอ โดยอำเภอเมืองผ่านการฉีดวัคซีนตามเป้าแล้ว พร้อมรับนักท่องเที่ยวจาก สปป.ลาว

ส่วนความคืบหน้าโครงการตามมติ ครม.ปี 2561 ที่ จ.เพชรบูรณ์ และ จ.หนองคาย เฉพาะที่อุดรธานีมีรวม 26 โครงการ วงเงิน 1,700 ล้านบาท ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ระหว่างดำเนินการ 18 โครงการ รวมทั้งโครงการสร้างถนนเข้าวัดป่าบ้านตาดที่ท่านนายกฯ ผ่านไปเมื่อเช้า การขยายตัวของเศรษฐกิจ เรามองจุดสำคัญ 3 ประการ คือ 1. เชื่อมโยงรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย กับรถไฟความเร็วสูง จีน-สปป.ลาว 2. นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีที่ลงทุนด้วยภาคเอกชน และ 3. โครงการจัดงานพืชสวนโลก ที่ ครม.อนุมติในหลักการให้ดำเนินการแล้ว


ขณะที่นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระบุว่า รถไฟความเร็วสูงจากจีน-สปป.ลาว เริ่มเปิดให้บริการ 2 ธ.ค. 64 จะทำให้มีนักท่องเที่ยว นักลงทุนเดินทางเข้ามาในอุดรธานี และภาคอีสานมากขึ้น คาดว่าไม่ต่ำกว่า 5-6 ล้านคนต่อปี

เป็นโอกาสทางการค้า จึงต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในการประชุม ครม.สัญจรนอกสถานที่ 18 ก.ย. 61 ที่ จ.เพชรบูรณ์ และ 13 ธ.ค. 61 ที่ จ.หนองคาย ได้สร้างโอกาสให้แก่อุดรธานี และภาคอีสาน เพราะที่รับปากไว้ได้เกิดขึ้นจริง ขณะที่หลายจังหวัดในอีสานไปมาหาสู่กันได้สะดวกเร็วขึ้นมาก

เช่น โครงการขยายผิวจราจร ทางหลวงหมายเลข 2 อุดรธานี-หนองคาย เพิ่มประสิทธิภาพจาก 20,000 คันเป็น 50,000 คัน, โครงการขยายผิวจราจร ทางหลวงหมายเลข 216 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุดรธานี ด้านทิศตะวันออก, โครงการขยายช่องจราจรจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 2 -พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์, เร่งรัดโครงการรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-อุดรธานี-หนองคาย, โครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรองรับการเติบโตของนักเดินทางและนักท่องเที่ยว และศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 3 เพิ่มผู้โดยสารจากปีละ 2.5 ล้านคน เป็น 5 ล้านคน

โครงการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ให้สอดรับกับการแข่งขันในเวทีสากลโครงการที่ 7 Logistic Park ศูนย์กลางการค้าและการขนส่งของอนุภูมิภาค ลุ่มแม่น้ำโขงและโครงการท่าเรือบก (Inland Container Depot) จังหวัดอุดรธานี โครงการที่ 8 การยกระดับความปลอดภัยบริเวณทางแยกเข้านิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี บนถนนหมายเลข 2 ดำเนินการโดยแขวงทางหลวงที่ 1 อุดรธานี และโครงการเชื่อมโยงก่อสร้างทางรถไฟ 2 เส้นทาง ภายนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี (2.8 กม.) และในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี 1 กม.


ทางด้านนายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้อุดรธานีจัดงาน “พืชสวนโลก” ระหว่าง 1 พ.ย. 69-14 มิ.ย. 70 วงเงินกว่า 2,500 ล้านบาท หลังจากที่อุดรธานีเตรียมความพร้อมมากว่า 3 ปี ซึ่งงานครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่จัดในพื้นที่ชุ่มน้ำ (ระดับท้องถิ่น) ในรูปแบบ “วิถีชีวิต สายน้ำ และพืชพันธุ์” ที่สวนสาธารณะหนองแด อ.เมือง พื้นที่ 1,030 ไร่ จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ-สร้างงานให้อุดรธานี ใกล้เคียง และภาคอีสาน

นายธีระวัฒน์ คุณะปุระ ประธานนักธุรกิจรุ่นใหม่ (YEC) หอการค้า จ.อุดรธานี ตัวแทนคนรุ่นใหม่ กล่าวว่า มุมมองตนเองเชื่อว่าอนาคตอุดร 5 ปีข้างหน้าจะมีการเจริญเติบโตมาก ในลักษณะก้าวกระโดดในทุกมิติ การเติบโตของเมืองไม่ห่วง แต่การเติบโตมากเกินไปส่งผลต่อค่าครองชีวิตที่สูงขึ้น, ความเหลื่อมล้ำทางสังคม-โอกาส-การศึกษา และการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเตรียมรับมือ

“ฝากถึงประเด็นทางออกที่อาจจะสามารถรับมือกับอนาคตได้ ประเด็นที่ 1 ความสมัครสมานสามัคคี และการทำงานร่วมกันเป็นทีม หลังจากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาได้เข้ามาช่วยงานร่วมกับจังหวัด ได้เห็นมุมมองถึงความสำเร็จของอุดรธานี ประเด็นที่ 2 การพัฒนาศักยภาพแรงงาน จากการเติบโตก้าวกระโดด อนาคตของธุรกิจใหม่ๆ อุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะเข้ามา”


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องระบบขนส่งทางราง ตนเป็นคนตัดสินใจ และไปคุยเรื่องนี้เอง ไม่เอาแบบการให้สัมปทาน เพื่อนบ้านของเราเสียเปรียบไปแล้ว ไทยจะต้องเป็นคนสร้างเอง เทคโนโลยีก็เปลี่ยนไปเร็ว ปัญหาตอนนี้คือการส่งมอบที่ดิน มีปัญหาเรื่องเส้นทางผ่าน ทำประชาพิจารณ์ไปไม่ผ่าน ทำถนน ขุดคลอง มีปัญหาเหมือนกัน จึงอยากให้มีการเสียสละ เมื่อเสียสละไปแล้วเรื่องอื่นก็จะตามมา

ส่วนเรื่องนิคมอุตสาหกรรม นายกฯ กล่าวว่า ให้นโยบายไปแล้วต้องเป็นอุตสาหกรรมใหม่ ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีศักยภาพ สร้างนวัตกรรม ลดโลกร้อนให้ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรงเก่าหรือใหม่ ตอนนี้มีกี่แห่งแล้ว มันน่าจะมีในทุกจังหวัด ผู้คนจะได้มีงานทำ เกษตรกรรมอย่างเดียวรายได้ไม่ดีพอ ทุกคนก็ต้องไปเพิ่มทักษะ ไม่เช่นนั้นเราก็ยังต้องอาศัยแรงงานจากต่างประเทศ

“ไม่รู้เป็นเพราะอะไร คนไทยไม่อยากทำงานโรงงาน วันหน้าโรงงานจะพัฒนาเป็นใช้เครื่องจักรมากขึ้น วันนี้ทำงานกับเครื่องจักรให้ได้ อนาคตคนไทยจะต้องเป็นหัวหน้างานให้ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า

เรื่องการจัดงานพืชสวนโลก ขอให้อุดรธานีเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด เพื่อไปแย่งสิทธิในการจัดงานมา เชื่อว่างานนี้หากประเทศไทยจัดได้ดีจะมีรายได้เพิ่มเข้ามา ก็ขอให้กำลังใจกับอุดรธานี และทุกคนที่ช่วยกันในครั้งนี้ ตอนนี้อยู่ที่จะแข่งขันกับเขาได้ไหม รัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้ให้แล้ว


พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนท้ายว่า วันนี้ถือเป็นวันหารือที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง มีการเสนอแล้วติดตามความก้าวหน้า ตอนนี้เข้าใจตรงกันแล้ว เมื่อสร้างความเข้าใจตรงกัน รัฐจะเป็นผู้อำนวยความสะดวก เป็นผู้ลงทุนร่วม เป็นผู้ผลักดันให้เกิดขึ้น แต่ก็ต้องอาศัยภาคเอกชนในการลงทุน รัฐบาลยังต้องแก้กฎหมายอีกหลายตัว อยากจะทำความเข้าใจน้องๆ เหมือนกัน บางทีกฎหมายมันล้าสมัย ใครก็อยากจะมาลงทุนประเทศไทย

"โอกาสเรามากที่สุดในอาเซียน แต่เข้ามาแล้วยังติดปัญหาอยู่ เราคือทีมในประเทศไทย เราต้องสร้างครอบครัวของเราให้เข้มแข็งขึ้น ถ้าเราไม่ร่วมมือกัน ครอบครัวเราจะอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ ลูกหลานเราจะอยู่กันอย่างไร" นายกฯ กล่าวย้ำ


กำลังโหลดความคิดเห็น