นครปฐม- ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตั้งโต๊ะแถลงสรุปเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บน้ำมันประภากรออยล์ ต.อ้อมใหญ่ โดยเป็นลูกจ้างหัวหน้าแผนกคลังสินค้าก่อเหตุเอง อ้างโกรธที่ถูกตำหนิ โดยแจ้งข้อกล่าวหาวางเพลิง โทษหนักถึงประหารชีวิต ส่วนผู้บริหารโต้ไม่เคยตำหนิรุนแรง แค่ตักเตือน
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ สภ.โพธิ์แก้ว อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน นายรัฐศาสร์ ชิดชูชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุวางเพลิงโกดังเก็บน้ำมันประภากรออยล์ ในพื้นที่ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยมีความสูญเสียถึง 40 ล้านบาท
พล.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เผยว่าในการจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุม น.ส.สิราสินี หรือแอน ศรียา อายุ 38 ปี ชาว อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในข้อหา "วางเพลิงทรัพย์สินของผู้อื่น" ซึ่งทรัพย์นั้นเป็นโรงเรือนที่เก็บสินค้า แจ้งความเท็จ (รู้ว่ามิได้กระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งแก่เจ้าพนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด) และแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเสียหาย
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ย. เวลาประมาณ 12.15 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังสำหรับน้ำมันของบริษัทประภากรออยล์ จำกัด เลขที่ 26/ 15 ม.2 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดย สภ.โพธิ์แก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันบริหารเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยระดมรถดับเพลิงประมาณ 40 คันในการดับไฟ โดยเวลา 16.30 น.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการตรวจสอบพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ น ส.สิราสินี หรือแอน ซึ่งเป็นพนักงานบริษัท ตำแหน่งหัวหน้าคลังสินค้า ได้ให้การว่าก่อนเหตุได้พบชาย 2 คน เข้ามาก่อเหตุซึ่งได้หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามสืบสวนตามพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและประกอบกับผู้ต้องหามีพิรุธในการให้ปากคำ จึงได้สอบสวนเชิงลึกจนสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุเอง โดยใช้ไฟแช็กจุดกระดาษแล้ววางไว้ในกล่องกระดาษบรรจุน้ำมันหล่อลื่น จำนวน 2 จุด จนเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว ไม่ได้มีคนร้าย 2 คนตามที่ให้การครั้งแรกแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานทั้งหมดรวบรวมเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา โดยโทษมีสูงสุดประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต โดยมีหลักฐานทั้งหมดและมีชุดที่สวมใส่ในพื้นที่เกิดเหตุมาเป็นหลักฐาน โดยเจ้าตัวสารภาพว่าโกรธที่ถูกนายจ้างตำหนิจึงได้ก่อเหตุดังกล่าว
ด้านนายพิภัช อึ้งประภากร กรรมการผู้จัดการเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยอมรับว่าตกใจที่สาเหตุเกิดจากพนักงานในบริษัทซึ่ง ผู้ต้องหาได้กล่าวว่ามีความโกรธแค้นเรื่องการถูกตำหนิ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่เคยมีการพูดรุนแรงกับผู้ต้องหา แต่มีการตำหนิจริงซึ่งจะเป็นเรื่องความรอบคอบ เรื่องของความปลอดภัยของพนักงานที่เข้าออกในโกดังน้ำมัน โดยขณะนี้ความเสียหายประมาณ 40 ล้านบาท โดยครั้งแรกที่เคยเกิดเพลิงไหม้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีความเสียหายกว่า 90 ล้านบาท ได้มีประกันจ่ายสินไหมมาแล้ว 60 กว่าล้านบาท
ในส่วนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนเสียหายจะมีการชดเชยอย่างแน่นอนทุกราย ซึ่งจะดูเป็นรายๆ ไปว่ามีความเดือดร้อนเสียหายมากในระดับไหน โดยจะมีการประเมินอีกครั้งหนึ่ง