นครปฐม - ผู้ว่าฯ นครปฐม ลงพื้นเหตุไฟไหม้โกดัง "ประภากรออยล์" เร่งตรวจสอบความเสียหาย ทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเยียวยา พร้อมสั่งการให้กรมชลฯ ปิดประตูน้ำเพื่อกักน้ำมันไว้ไม่ให้กระจายไปที่อื่นและไหลลงแม่น้ำ ด้านเจ้าของบริษัทแจงเป็นโกดังเก็บน้ำมันเครื่องเพื่อรอขนย้าย ไม่มีสารเคมีไวไฟอย่างอื่น ค่าเสียหายเบื้องต้น 40 ล้าน พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ โกดังคลังเก็บน้ำมัน เมื่อ 12.30 น.ที่ผ่านมา โดย พ.ต.ท.ธันวา สองวิหค สว.สอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้คลังเก็บน้ำมัน ของบริษัท ประภากรออยล์ จำกัด หมู่ 2 อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม ถือเป็นการระดมกำลังครั้งใหญ่ของทีมนักดับเพลิงอีกครั้ง จากหลายพื้นที่ เช่น เทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ เทศบาลเมืองไร่ขิง เทศบาลเมืองอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และรถดับเพลิงจากเขตใกล้เคียง ในเขตจ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญู กู้ชีพวิชัยเวช อ้อมน้อย
โดยที่เกิดเหตุเป็นโรงงานเก็บสินค้าเชื้อเพลิงประเภท ทินเนอร์ และน้ำมันหล่อลื่นเนื้อที่เกือบ 2 ไร่ พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงและน้ำมันได้ไหลลงคลองอ้อมใหญ่ที่อยู่ด้านหลังและลามไปไปติดบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียงหลายคูหาเจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำและประสานขอรถโพมจาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี ใช้เวลากว่า 3 ชม.เพลิงจึงสงบแต่ต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้เพื่อป้องกันการลุกลามขึ้นมาอีก
เวลาต่อมานายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พ.อ.พงษ์สวัสดิ์ ภาชนะทิพย์ รอง ผอ.รมน. จังหวัด น.ฐ.พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ปภ.จ.นครปฐม สิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมจังหวัดและส่วนเกี่ยวข้องได้มาที่เกิดเหตุ
โดยนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เผยว่าได้ตั้งศูนย์อำนวยการในที่เกิดเหตุ และสั่งการไปทาง อำเภอสามพราน เทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ และ ปภ. ร่วมตรวจสอบความเสียหายบ้านเรือน ยานพาหนะ ทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเร่งเยียวยาเบื้องต้นก่อน ส่วนที่มีน้ำมันได้ไหลลงคลองอ้อมใหญ่ ได้สั่งการให้กรมชลประทานปิดประตูน้ำเพื่อกักน้ำมันไว้ไม่ให้กระจายไปที่อื่นและไหลลงแม่น้ำ และให้ส่วนเกี่ยวข้องเร่งกำจัดน้ำมันที่อยู่ในคลองและรอบข้าง และหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมตรวจมลพิษโดยรอบทั้งหมด และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบสรุปความเสียหายและ ผลกระทบ
ด้านนายนพรุจ อึ้งประภากร กรรมการผู้จัดการบริษัท ประภากรออยล์ จำกัด เผยว่า โรงงานที่เกิดเหตุเป็นที่กักเก็บน้ำมันเครื่องยนต์ จารบี แต่ไม่มีสารเคมีไวไฟอย่างอื่น โรงงานแห่งนี้ไม่ใช่ที่คลังสินค้าหลักของบริษัทของตนเอง แต่เป็นการนำเอาถังน้ำมันเครื่องมาวางไว้ เพื่อรอคนย้ายไปยังโรงงานใหม่ ที่กำลังจะสร้างขึ้นในอีกพื้นที่หนึ่งโดยความเสียหายทั้งหมดประมาณ 40 ล้านบาท ส่วนเรื่องประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้รับความเสียหาย ทางบริษัทยืนยันเรื่องการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้แน่นอน
เบื้องต้นมีพนักงานหญิงอยู่ภายโรงงานถูกไฟลวก และมีพนักงานดับเพลิงถูกสายยางกระแทกหน้าได้รับบาดเจ็บ กู้ภัยนำตัวส่ง รพ. ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
สำหรับ บริษัท ประภากรออยล์ จำกัด ได้เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ไปแล้วครั้งหนึ่งซึ่งเป็นส่วนเก็บน้ำมันและอาคารสำนักงาน เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา โดยมีเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงทำให้เกิดเปลวเพลิงเผาอาคารและสำนักงาน รวมถึงส่วนเก็บน้ำมันซึ่งต้องใช้เวลานาน 2 วันกว่าจะควบคุมเพลิงไว้ได้
