อุบลราชธานี - เกิดเหตุไฟไหม้บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ของชาวบ้านใน อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี คลอกสองแม่ลูกดับคากองเพลิง ส่วนพ่อถูกไฟลวกได้รับบาดเจ็บสาหัส ทรัพย์สินภายในบ้านทั้งรถไถนา รถ จยย. ข้าวเปลือกที่เพิ่งเก็บเกี่ยววอดไปกับกองเพลิง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ยุทธชาติ เหล็กงาม รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านแดง หมู่ 17 ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอโพธิ์ไทร เกิดไฟไหม้บ้านของลูกบ้านเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ตั้งอยู่เลขที่ 172 และเจ้าของบ้านยังติดอยู่ภายในบ้าน จึงรีบประสานแจ้งรถดับเพลิงจาก อบต.โพธิ์ไทร และเทศบาลตำบลโพธิ์ไทร รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงเข้าสนับสนุน เนื่องจากไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง เพราะขณะเกิดเหตุมีลมหนาวพัดมาเป็นระยะ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปยังจุดอื่นเพราะไฟไหม้บ้านเกือบวอดทั้งหลังแล้ว
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านได้ช่วยนำ นายประเวทย์ คุณนภาที อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกไฟคลอกตามลำตัวส่งให้หน่วยกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลประจำอำเภอ แต่เนื่องจากมีอาการหนัก แพทย์ได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัดให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องผู้ถูกไฟคลอกช่วยรักษา
หลังเพลิงเผาผลาญนานกว่า 30 นาทีก็สงบลง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าเคลียร์พื้นที่ก็พบศพนางสมแปลง คำตา อายุ 30 ปี และ ด.ช.สิทธิชัย คุณนภาที อายุ 6 ขวบ สองแม่ลูกถูกเพลิงคลอกเสียชีวิตในที่เกิดเหตุด้วย
นางนรินทร์ จันทาทอง ผู้ใหญ่บ้านบ้านแดง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเกิดเพลิงไหม้บ้านของนายประเวทย์ จึงพร้อมกับคนในชุมชนได้รีบรุดออกมาช่วยดับไฟ แต่ขณะนั้นเปลวไฟได้โหมไหม้ขึ้นอย่างรุนแรงแล้ว และทราบว่าเจ้าของบ้านและคนในครอบครัวที่นอนอยู่ชั้นบนของบ้านติดอยู่ในกองไฟ ชาวบ้านพยายามเข้าช่วยเหลือแต่ก็ไม่ได้เพราะไฟลุกไหม้รุนแรง
ต่อมาชาวบ้านเห็นนายประเวทย์กระโดดหนีไฟออกมาได้คนเดียว ส่วนเมียและลูกยังติดอยู่ในกองเพลิง กระทั่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงก็ช่วยไม่ทันแล้ว
นอกจากไฟจะคลอกสองแม่ลูกเสียชีวิตแล้ว ยังไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง รวมทั้งรถจักรยานยนต์ 3 คัน รถไถนา 2 คัน ข้าวเปลือกที่เพิ่งเก็บเกี่ยวอีกประมาณ 2 ตัน รวมมูลค่ารวมกันกว่า 1 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อยืนยันสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่ชัดเจนอีกครั้งต่อไป