นครสวรรค์ - คืบหน้า..พ่อไรเดอร์หนุ่มโหดเกินพิกัด ทั้งชกทั้งฟาด กระโดดถีบหน้าลูกในไส้แทบสลบคาโต๊ะในร้านขายของจนวิจารณ์กันกระฉ่อนเมือง ล่าสุดแม่เด็กหญิงเหยื่อความรุนแรงลั่น ขอเอาเรื่องถึงที่สุด พร้อมรับลูกกลับไปดูแลเอง
ความคืบหน้ากรณีพ่อไรเดอร์หนุ่มทำร้ายร่างกายลูกสาวในไส้วัย 14 ปีทั้งร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง เพียงเพราะฟังคำฟ้องผู้ปกครองเพื่อนลูกโดยที่ไม่สอบถามมูลสายปลายเหตุทั้งหมดจากลูกสาวให้ดีเสียก่อน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เมืองนครสวรรค์ และมีการเผยแพร่เรื่องราวผ่านโซเชียลฯ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดเช้าวันนี้ (30 พ.ย.) นางเรณู ปรางทับทิม อายุ 47 ปี แม่ของเด็กหญิงที่ถูกพ่อทำร้ายตามที่ปรากฏอยู่ในคลิป ซึ่งได้เดินทางจาก จ.ตราด ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อมารับลูกสาวที่นครสวรรค์กลับไปอยู่ด้วยกัน เปิดเผยว่า เรื่องคลิปพ่อทำร้ายลูกที่ถูกเผยแพร่ไปตามสื่อโซเชียลฯ นั้น ลูกสาวคนโตอีกคนที่เห็นพฤติกรรมของพ่อแล้วเกิดความโมโหที่มาทำร้ายน้องสาวของเขาอย่างรุนแรง จึงได้ส่งคลิปไปให้กับทางเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2” นำไปตีแผ่ให้เห็นถึงความโหดร้ายของพ่อ
ส่วนตนที่เดินทางมาหาลูกสาววันนี้ ส่วนหนึ่งจะรับลูกสาวกลับไปอยู่ตราดเหมือนเดิม และจะเดินทางไปพบกับตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีต่อพ่อของลูกสาวคือ นายวัฒนศักดิ์ ภู่ทิพย์ หรือเอก อายุ 41 ปี ให้ถึงที่สุด และจะไม่ยอมความเด็ดขาด
นางเรณูระบุด้วยว่า สมัยก่อนตอนที่อยู่กินกับสามีเก่านั้นเขาก็มีนิสัยแบบนี้ ชอบลงไม้ลงมือทำร้ายตนเองอยู่บ่อยๆ จนทนไม่ไหวต้องขอเลิกราแยกทางกันไป โดยตนพาลูกสาวไปใช้ชีวิตและทำงานอยู่ที่ จ.ตราด กระทั่งมีครอบครัวใหม่ ส่วนฝ่ายสามีเก่าก็มีครอบครัวใหม่เช่นกัน และนานๆ ครั้งตนจะให้ลูกสาวกลับมาอยู่กับอาสาวที่นครสวรรค์ ในช่วงปิดเทอมประมาณ 2-3 อาทิตย์ก็จะมารับลูกกลับไปอยู่ที่ตราดเหมือนเดิม
หากถามว่าก่อนหน้านี้สามีเก่าเคยตีลูกรุนแรงบ่อยหรือไม่ ต้องตอบว่าเคยมีครั้งหนึ่งตอนที่ลูกกลับมาอยู่กับอาสาวที่นครสวรรค์ แต่คราวนั้นยังไม่รุนแรงเหมือนกับครั้งนี้ที่ดูรุนแรงมากจนตนแทบไม่กล้าดูคลิปเพราะมันโหดร้ายเกินไป จึงต้องการเอาเรื่องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว และก็ทราบว่าที่ผ่านมาสามีเก่าเคยผ่านการมีเมียมาแล้วหลายคน และแต่ละคนสามีเก่าก็ชอบทำร้ายทุบตีแบบนี้อยู่บ่อยๆ จนเขาทนไม่ได้ ก็ต้องเลิกรากันไปอีก