เชียงใหม่ - ม.แม่โจ้เปิดโรงเรือนอัจฉริยะปลูกกัญชา 24,000 ต้นในระบบอุตสาหกรรมอินทรีย์เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โดยบริษัทเอกชนสนับสนุนงบประมาณ 70 ล้านบาท ผลผลิตส่งกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกนำไปสกัดเป็นยารักษาโรค
วันนี้ (26 พ.ย. ) ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์ ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นประธานเปิดโรงเรือนปลูกกัญชาในระบบเกษตรอินทรีย์ระดับอุตสาหกรรมเพื่อการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยนำปลูกกัญชาต้นแรกในโรงเรือน เป็นสายพันธุ์แม่โจ้ 03 ซึ่งทางศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ทำการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์จากพันธุ์อิสระ 01 ให้มีความทนทานต่อสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย และสามารถเจริญเติบโตได้ดี รวมทั้งให้ผลผลิตกัญชาที่มีคุณภาพ
โดยมีนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ซึ่งโรงเรือนแห่งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กับ บริษัท เค ที พี แอสโซซิเอท จำกัด ถือเป็นโรงเรือนปลูกกัญชาในระบบเกษตรอินทรีย์ระดับอุตสาหกรรมเพื่อการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ด้วยจำนวนการปลูกทั้งสิ้น 24,000 ต้น
รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า หลังจากที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้มีความร่วมมือกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขในโครงการปลูกและเก็บเกี่ยวกัญชาทางการแพทย์ 12,000 ต้น ในระบบเกษตรอินทรีย์ระดับอุตสาหกรรม โดยเริ่มต้นปลูกตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 จนสิ้นสุดโครงการและส่งมอบช่อดอกกัญชาให้องค์การเภสัชกรรม และกรมการแพทย์ไปสกัดเป็นน้ำมันกัญชา เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยเฉพาะโรค เฉพาะทาง เฉพาะคน ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข
เมื่อดำเนินโครงการสำเร็จแล้ว ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้จึงได้ต่อยอด ความร่วมมือกับภาคเอกชน ซึ่งได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อทำการปลูกกัญชาในระบบอุตสาหกรรมอินทรีย์ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งโรงเรือนและอุปกรณ์ต่างๆ โดยภาคเอกชนจะส่งมอบแก่ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัยต่อไป
ขณะที่ศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า ในความร่วมมือกับบริษัท เค ที พี แอสโซซิเอท จำกัด ครั้งนี้ทางบริษัทได้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างโรงเรือนปลูกอัจฉริยะ (Smart Farming) พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ในวงเงินงบประมาณ 70 ล้านบาท บนเนื้อที่ 6.25 ไร่
ในโครงการจะมีการปลูกและเก็บเกี่ยวกัญชาทางการแพทย์ในโรงเรือนปลูกรวมทั้งสิ้น 24,000 ต้น ใช้เทคนิคการปลูกระยะชิด ภายใต้การดูแลทั้งการเจริญเติบโตของพืช การให้อาหาร การป้องกันศัตรูพืช เป็นระบบอินทรีย์ทั้งสิ้น รวมทั้งการควบคุม การให้น้ำ ความชื้น อุณหภูมิ และแสงแบบ Smart Farming โดยใช้เมล็ดพันธุ์กัญชาสายพันธุ์แม่โจ้ 03 ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้ทำการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์จากพันธุ์อิสระ 01 ซึ่งจะมีความทนทานต่อสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย และสามารถเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งโครงการความร่วมมือกับ บริษัท เค ที พี แอสโซซิเอท จำกัด ในครั้งนี้นับเป็นโครงการปลูกและเก็บเกี่ยวกัญชาในระบบอุตสาหกรรมอินทรีย์เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เพื่อให้ได้ผลผลิตกัญชาที่มีคุณภาพ ส่งมอบให้หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อนำไปสกัดทำยารักษาโรคต่อไป