xs
xsm
sm
md
lg

รองผู้ว่าฯ ไทย-กัมพูชารุดหารือจ่อเปิด “ด่านช่องสะงำ” กระตุ้นการค้าท่องเที่ยวหลังโควิดคลี่คลาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศรีสะเกษ - รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ไทย-รองผู้ว่าฯ อุดรมีชัย กัมพูชา จับมือหารือเตรียมเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ไทย-กัมพูชา เพื่อกระตุ้นการค้า ลงทุน และการท่องเที่ยว หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ด้านกัมพูชาย้ำพร้อมเปิดเต็มที่หลังฉีดวัคซีนโควิดประชาชนครบทั้งประเทศ

วันนี้ (18 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำพื้นที่ 1 ใกล้กับจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ วันที่ 17 พ.ย. นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับ นายลึม ซกโต รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมด้วยคณะฝ่ายกัมพูชา เข้าร่วมในการประชุมพิจารณาความพร้อมในการเปิดจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องสะงำ


โดยตัวแทนทั้งสองฝ่ายได้มีการพิจารณาหารือกันเกี่ยวกับมาตรการและหลักเกณฑ์ในการเดินทางเข้า- ออกของทั้งสองประเทศ เพื่อให้การเตรียมการเปิดด่านเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีการปรับแนวทางต่างๆ ให้สามารถที่จะใช้เป็นแนวปฏิบัติร่วมกันได้ จากนั้นจะได้นำเอาผลการประชุมพิจารณานี้ไปรายงานให้หน่วยเหนือของทั้งสองฝ่ายได้รับทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยมี นางสุวรรณา วรรณศรี นายอำเภอภูสิงห์ ให้การต้อนรับและร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกในการประชุมครั้งนี้

นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการศรีสะเกษ กล่าวว่า จ.ศรีสะเกษได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยว่า ให้สำรวจความพร้อมในการเปิดจุดผ่านแดนเพื่อรองรับการเปิดประเทศ ซึ่ง จ.ศรีสะเกษ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีมติแต่งตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อมการเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำระดับจังหวัด พร้อมทั้งมอบหมายให้นายอำเภอภูสิงห์ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์/ประธานคณะทำงานช่องทางด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศฯ ช่องสะงำ ได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในพื้นที่ด่านของทั้งสองประเทศ และหารือแนวทางมาตรการในการเตรียมความพร้อมหากจะมีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจในการรองรับการเปิดประเทศ


นายสำรวยกล่าวต่อว่า จากการประเมินของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษได้พิจารณาความเหมาะสมเพื่อประกอบการพิจารณาเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ เห็นว่ามีความพร้อมและเหมาะสมที่จะดำเนินการได้ โดยได้มีการพิจารณาความพร้อมในการเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำของทั้งสองฝ่าย เช่น การผ่อนปรนการบริการด้านการแพทย์/การรักษา การผ่อนปรนการแลกเปลี่ยนสินค้าอุปโภค บริโภค การผ่อนปรนด้านการท่องเที่ยว ประเด็นด้านการศึกษา/นักศึกษา เป็นต้น

นายลึม ซกโต รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา กล่าวให้สัมภาษณ์ผ่านล่ามว่า การประชุมในวันนี้เป็นการเตรียมเบื้องต้นในการที่จะพิจารณาเปิดช่องสะงำ ซึ่งการประชุมในวันนี้จะเกี่ยวกับด้านนักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ค้า และนักศึกษา เป็นการจดทะเบียนและทำอะไรต่างๆ เกี่ยวกับการข้ามแดน จากการปรึกษาหารือกันทางฝ่ายไทยก็ได้ขอนำเรื่องที่ทางฝ่ายกัมพูชาเสนอมาเพื่อเสนอไปทางกระทรวงมหาดไทยของไทยได้ทราบเพื่อพิจารณาการปลดปล่อยเงื่อนไขบางประการ หลังจากที่ได้ประชุมปรึกษาหารือนี้แล้ว เราก็จะรอรับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยของไทยเพื่อจะได้ร่วมกันเพิ่มเติมในประเด็นที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งในการที่จะเปิดช่องสะงำได้เร็วเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของฝั่งไทย ในส่วนของฝ่ายกัมพูชาจะได้รายงานไปให้หน่วยเหนือได้รับทราบ หลังจากนั้นหน่วยเหนือจะได้มีการพิจารณาสั่งการลงมายัง จ.อุดรมีชัยเพื่อที่จะได้นำไปหารือและร่วมมือกันกับฝ่ายไทยต่อไป


ตามข้อเท็จจริงแล้ว สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา มีหลักการที่จะเปิดประเทศแล้ว หลังจากที่กัมพูชามีความสำเร็จในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนชาวกัมพูชาทั้งประเทศเรียบร้อยแล้ว เราจึงได้เตรียมที่จะเปิดด่านชายแดน โดยขณะนี้กัมพูชาได้เปิดประเทศแล้ว และพร้อมที่จะเปิดจุดผ่านแดนถาวรกัมพูชา-ไทย ช่องสะงำ เพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศต่อไป






















กำลังโหลดความคิดเห็น