เชียงใหม่ - เชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ลดลง ขณะที่ล่าสุดเสียชีวิตอีก 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปี หรือต่ำกว่าแต่มีโรคประจำตัว รวมทั้งไม่เคยได้รับวัคซีน และน่าเป็นห่วงสถานการณ์กลุ่มผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นจนเตียงสีแดงไม่พอ เน้นย้ำกลุ่มเสี่ยงเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว
ช่วงค่ำวันนี้ (16 พ.ย. 64) คณะกรรมการโรคติดต่อรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวันนี้ (16 พ.ย. 64) ว่า จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 339 ราย ลดลงจากวานนี้ โดยเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด 6 ราย ประกอบด้วย กรุงเทพฯ 3 ราย เพชรบูรณ์ และลำพูน จังหวัดละ 1 ราย และแรงงานลักลอบเข้ามาจากเมียนมา 1 ราย ส่วนที่เหลืออีก 333 รายเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ใหม่ ได้แก่ คลัสเตอร์ไซต์งานก่อสร้างธนาคาร ธ.ก.ส. อำเภอสารภี 7 ราย, คลัสเตอร์กลุ่มทำนา หมู่ 7 ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง 5 ราย, คลัสเตอร์บ้านเช่าป้านี ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย 5 ราย ส่วนคลัสเตอร์ที่ยังมีการระบาดต่อเนื่อง ได้แก่ คลัสเตอร์สถานรับเลี้ยงเด็ก หมู่ 9 ตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง 3 ราย, คลัสเตอร์บ้านห้วยจะค่าน หมู่ 9 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว 3 ราย นอกนั้นเป็นคลัสเตอร์เล็กๆ ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1-2 ราย
ส่วนคลัสเตอร์เดิมอยู่ระหว่างการควบคุมโรค เป็นการตรวจพบกลุ่มเสี่ยงระหว่างการกักตัว การออกตรวจเชิงรุก การติดตามผู้สัมผัส ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 67 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ 26 ราย, บริษัทนิ่มซี่เส็ง สาขาฟ้าฮ่าม 6 ราย, ตลาดประตูก้อม 5 ราย, ชุมชนช้างคลาน 4 ราย, หมู่บ้านการเคหะหนองหอย 4 ราย และคลัสเตอร์อื่นๆ คลัสเตอร์ละ 1-3 ราย ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังและดำเนินการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้าอีก 109 ราย จากการติดตามการกักตัวของผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่มีผลตรวจครั้งแรกเป็นลบ ส่วนการระบาดในครอบครัว วันนี้ยังพบอยู่ 21 รายจาก 11 ครอบครัว กระจายอยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอโดยรอบ ส่วนใหญ่พบครอบครัวละ 1-5 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 91 ราย
สำหรับปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงพบว่ามาจากการสัมผัสในครอบครัวในอัตราที่สูงอยู่ ส่วนการสัมผัสในสถานที่ทำงาน การสัมผัสในชุมชน ลดลง และยังทรงๆ อยู่ในระดับกลางๆ ขณะที่การสัมผัสจากสถานที่ระบาดในต่างจังหวัดพบน้อยลงชัดเจน ทำให้ภาพรวมของปัจจัยเสี่ยงหลักของการติดเชื้อคือการสัมผัสในครอบครัวเป็นปัจจัยหลัก เพิ่มขึ้นไปที่ร้อยละ 31.4 รองลงมาเป็นการติดเชื้อจากการสัมผัสในชุมชน ลดลงมาเหลือร้อยละ 24.2 และการสัมผัสในที่ทำงาน เพิ่มเป็นร้อยละ 15.8 ด้านผู้เสียชีวิตวันนี้ (16 พ.ย. 64) พบเพิ่ม 5 ราย สะสมแล้ว 96 ราย ส่วนมากเป็นผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี และผู้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปีแต่มีโรคประจำตัว ซึ่งทุกรายไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน โดยหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้จะทำให้จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ติดเชื้อกลุ่มสีแดงที่มีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นจนจำนวนเตียงไม่สามารถรองรับได้ ดังนั้นจึงต้องให้กลุ่มเสี่ยงสูงทั้งผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด