กำแพงเพชร - ป้าชาวเมืองกล้วยไข่ต้องขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง-คนรักสุนัขช่วยรับไปดูแลต่อ..หลังเคาะคทาเกลี่ยข้าวถูกสุนัขที่เลี้ยงไว้ 7 ตัวรุมกัดทั่วทั้งตัว 35 แผล บอกยกให้ฟรีทั้งคอก กลัวกัดแม่วัย 82 รวมถึงแขกไปใครมาอีก
นางพิมพา ฟักเสือ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/2 ม.7 (บ้านสามแยก) ต.วังบัว อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้ร้องขอให้ผู้สื่อข่าวช่วยนำเสนอข่าว ขอให้หน่วยงานและคนรักสุนัขได้ช่วยนำสุนัขที่ตนเองเลี้ยงไว้นำไปเลี้ยงต่อ โดยยืนยันว่ายินดียกให้ทั้งคอก
เนื่องจากเมื่อ 7 วันก่อนถูกสุนัข 6 ตัว รุมกัดจนได้รับบาดเจ็บถึง 35 แผล ร่างกายฟกช้ำไปทั่วทั้งตัว โดยสุนัขที่เลี้ยงไว้มีอยู่ 7 ตัว เป็นพันธุ์ไทยพื้นเมืองทั้งหมด และมีสุนัขแม่ลูกอ่อนด้วย ซึ่งขณะนี้สามีและน้องสาวได้นำไปขังไว้ในกรงเหล็กในบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้มากัดคนที่เข้ามาในบ้าน
นางพิมพาได้โชว์แผลทั่วร่างกายให้ผู้สื่อข่าว รวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน และ อสม.ที่ได้เดินทางมาเยี่ยม พร้อมเล่าว่า เมื่อ 7 วันก่อนขณะจะไปตากข้าวเปลือกช่วยน้องสาว ตอนกำลังเดินเข้าไปหยิบคทา (อุปกรณ์ในการเกลี่ยข้าวเปลือกสำหรับตากข้าวในลานปูน) ที่บ้านของน้องสาวที่อยู่ติดกัน ซึ่งตนเห็นคทาเกลี่ยข้าวมีเศษปูนติดอยู่จึงเอาไม้เคาะให้เศษปูนติดอยู่ออก จู่ๆ สุนัขแม่ลูกอ่อนอยู่บริเวณนั้นก็เห่าและกระโดดกัดตนทันที หลังจากนั้นสุนัขที่เหลืออีก 5-6 ตัวก็วิ่งมารุมกัดจนตนล้มลงไปกับพื้น ตอนนั้นได้พยายามร้องขอความช่วยเหลือจากสามี และพยายามใช้ไม้ตีสุนัขแต่ก็สู้แรงไม่ไหว สักพักสามีก็วิ่งเข้ามาช่วยและพยุงตนเองออกมาจากจุดที่โดนรุมกัด
“สุนัขฝูงนี้เคยกัดคนในบ้านมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งวันที่ฉันถูกรุมกัดได้รับบาดเจ็บถูกกัดไปถึง 35 แผล และฟกช้ำอีกทั่วตัว มาถึงตอนนี้คิดว่าคงเลี้ยงไว้ไม่ได้แล้ว กลัวว่าวันใดวันหนึ่งจะกัดแม่ที่อายุ 82 ปี หรือแขกไปใครมาจนได้รับบาดเจ็บได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่ดูแลเรื่องสุนัข หรือคนที่รักสุนัขเอาไปเลี้ยงต่อ ซึ่งหากใครอยากนำไปเลี้ยงก็สามารถโทร.มาได้ที่หมายเลข 08-1306-9344”
นายวุฒิชัย ดีแป้น ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านสามแยก ต.วังบัว อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มีเหตุการณ์โดนสุนัขรุมกัดจนได้รับบาดเจ็บมากขนาดนี้ พอรู้ข่าวก็เดินทางมาเยี่ยม ซึ่งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวกับสุนัขและคนรักสุนัขมาช่วยนำไปเลี้ยงต่อ เพราะเกรงว่าวันใดวันหนึ่งจะกัดคนในบ้านจนได้รับบาดเจ็บอีก นอกจากนี้ยังส่งเสียงรบกวนบ้านรอบข้างในยามค่ำคืน ซึ่งตนในฐานะผู้นำท้องถิ่นก็เป็นห่วงเรื่องนี้มาก และนางพิมพาก็มาปรึกษาตนว่าอยากให้คนอื่นที่รักสุนัขจริงๆ นำไปดูแลต่อ