NT เซ็นเอ็มโอยู AJA เป็นเวลา 3 ปี นำโซลูชันของอาลีบาบา ให้บริการเทคโนโลยี 5G ร่วมกับคลื่น 26 GHz ปั้นเมืองสำคัญสู่สมาร์ท ซิตี คาดเริ่มที่จังหวัดท่องเที่ยวของไทยก่อน
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า เทคโนโลยี 5G กลายเป็นเทคโนโลยีที่ประชาชนยอมรับและรู้จักโดยทั่วไปแล้ว อีกทั้งยังมีโครงข่ายครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ ดังนั้น การที่บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (จำกัด ) หรือ NT ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมด้านเทคโนโลยี 5G สำหรับเมืองอัจฉริยะ กับ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA นั้น ย่อมเป็นการผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาพัฒนาให้เศรษฐกิจดียิ่งขึ้น ซึ่งยูสเคสของ 5G นั้น หากมีการใช้งานมากขึ้นย่อมส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดตามมาอย่างแน่นอน โดยโครงการนี้คาดว่าจะเริ่มที่จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวก่อน ได้แก่ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ รวมถึงกรุงเทพฯ ด้วย
ด้าน น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ NT กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้มีระยะเวลา 3 ปี ในการทำงานร่วมกันโดย NT จะเป็นผู้หาลูกค้าโดยเฉพาะจังหวัดต่างๆ ที่ต้องการของบสนับสนุนเมืองในการเป็นสมาร์ท ซิตี ตามที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เป็นผู้กำหนดคุณสมบัติ 7 ด้าน ได้แก่ Smart Energy, Smart Economy, Smart Living, Smart Environment, Smart Governance, Smart People และ Smart Mobility ซึ่งโซลูชันของอาลีบาบา เป็นโซลูชันหรือแพลตฟอร์มสำหรับใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี 5G ที่มีการใช้งานจริงแล้วในประเทศจีนโดยมีมากกว่า 200 โซลูชัน NT ต้องนำมาประยุกต์หรือปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย
ดังนั้น NT ก็ต้องเลือกโซลูชันให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่หรือแต่ละธุรกิจ ซึ่งนอกจากกลุ่มเป้าหมายคือเมืองที่ต้องการทำสมาร์ท ซิตีแล้ว ยังมุ่งเน้นไปยังเมืองท่องเที่ยว ภาคอุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัยต่างๆ ด้วย ควบคู่กับการพัฒนาบุคลากรสตาร์ทอัปในพื้นที่ ทั้งนี้ พื้นที่บางส่วนมีการปูโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเดิมของทั้ง แคท และทีโอที เดิมอยู่แล้ว สามารถอัปเกรดและต่อยอดได้ เนื่องจาก NT มีจุดเด่นตรงที่มีโครงข่ายทั้งใต้ดิน บนดิน และอากาศ ทำให้สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย ส่วนเป้าหมายหรือรายได้นั้นยังไม่ได้มีการตั้งเป้าไว้ แต่โมเดลนี้จะเป็นเหมือนการทำธุรกิจทั่วไปแล้วแต่กรณีว่าใช้ทรัพยากรของใครมากน้อยแค่ไหน
“ส่วนประเด็นเรื่องการนำคลื่น 700 MHz มาพัฒนาโครงข่าย 5G นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาข้อสัญญาร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ทั้ง 3 ค่ายอยู่ ทั้งทรูฯ เอไอเอส และดีแทค โดย NT ยืนยันว่า เรายังคงดำเนินการเรื่อง 5G ตลอดเวลา อย่างโครงการที่บ้านฉาง จ.ระยอง มีการดำเนินการต่อเนื่องเพิ่มเติมจากการติดตั้งกล้อง CCTV จะเริ่มขยับไปสู่โซลูชันด้านการท่องเที่ยวด้วย” น.อ.สมศักดิ์ กล่าว
น.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้ NT มีกรรมการบริษัทเหลือเพียง 6 คน ได้แก่ ตนเอง นายอำนวย ปรีมนวงศ์ พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ นายจำเริญ โพธิยอด นายธงทิศ ฉายากุล และนายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ ก็ตาม แต่กำลังมีคำสั่งแต่งตั้งเพิ่มอีก 4 คนได้แก่ นางพิมพ์วิมล วงษ์สุวรรณ พล.อ.สุชาติ ผ่องพุฒิ นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา และนายพีระกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา ซึ่งรายชื่ออยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ขณะที่ด้านการคัดเลือกกรรมการผู้จัดการใหญ่ NT ได้มีการตั้งคณะกรรมการสรรหาและอยู่ระหว่างการร่างคุณสมบัติและคาดว่าจะมีการประกาศสรรหาเร็วๆ นี้
ขณะที่นายพิชัย ปัญจสังข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AJA กล่าวว่า บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายของอาลีบาบา คลาวด์ จึงสามารถนำโซลูชันมาใช้งานร่วมกันกับเทคโนโลยี 5G ของ NT ได้ สำหรับขอบเขตความร่วมมือภายใต้เจตนารมณ์แห่งบันทึกความร่วมมือฉบับนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงจะดำเนินงานร่วมกันตามขอบเขตความร่วมมือคือ ตกลงจัดหาคลื่นความถี่ 5G และอำนวยความสะดวกอื่นใดในการเชื่อมต่อคลื่นความถี่ 5G ย่าน 26 GHz กับเครือข่าย NT เพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถทำงานโดยคลื่น5G ย่าน 26 GHz
ส่วนขอบเขตการดำเนินงาน AJA รับผิดชอบในการดำเนินการ พัฒนาระบบปฏิบัติการด้าน สมาร์ท ซิตีให้ตอบสนองต่อความต้องการใช้งานในด้านเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้นเพื่อให้เข้าถึงประชาชนและได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้น ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และอื่นๆ ที่ได้พัฒนาและใช้ได้ผลมาแล้วในหลายประเทศในด้านสมาร์ท ซิตี เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาประเทศต่อไป ตกลงเป็นผู้นำเสนอโครงการสมาร์ท ซิตีในทุกด้านให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้หน่วยงานนั้นๆ ได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการในแต่ละหมวด ให้ข้อมูลแก่หน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด และตกลงเป็นผู้นำเทคโนโลยีที่ได้รับจากอาลีบาบา มาพัฒนาโครงการให้บรรลุเป้าหมายโครงการ