ศูนย์ข่าวศรีราชา - ททท.พัทยา มั่นใจรายได้การท่องเที่ยวเมืองพัทยาช่วงปลายปีทะลุ 50,000 ล้านบาท หลังเปิดประเทศสัปดาห์เดียวกระแสตอบรับดีเกินคาด โดยเฉพาะต่างชาติกลุ่มหลักเข้าพื้นที่แล้ว 10% ของยอดรวมการเดินทางเข้าไทย
วันนี้ (10 พ.ย.) นายขจรเดช อภิชาตตรากุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา เผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวใน จ.ชลบุรี หลังนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาลว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมานอกจากจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิมากขึ้นแล้ว
ยังทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ จ.ชลบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่นำร่อง 4 อำเภอคือ อ.บางละมุง เมืองพัทยา ศรีราชา เกาะสีชัง และ อ.สัตหีบ (เฉพาะ ต.นาจอมเทีย ต.บางเสร่) มีสัดส่วนมากกว่า 10% หรือประมาณ 2,000 คน จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงสัปดาห์แรกหลังเปิดประเทศประมาณ 20,000 คน
โดยนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรกที่เดินทางเข้าประเทศไทย ประกอบด้วย อเมริกา อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ และถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของเมืองพัทยาและยังเชื่อว่าในช่วงสัปดาห์ที่ 2 เมืองพัทยาจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพื้นที่มากขึ้น
จากการอำนวยความสะดวกด้วยระบบ Thailand Plus ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และจากจัดทำระบบ Coast ในการดูแลนักท่องเที่ยว และงานบริการทางด้านสาธารณสุขที่สมบูรณ์เต็มรูปแบบ
“มั่นใจว่าในสัปดาห์ที่ 2 หรือประมาณกลางเดือน พ.ย.นี้ เมืองพัทยาจะได้เห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่าจากสัปดาห์แรก ซึ่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลการท่องเที่ยวผ่านทางเว็บไซต์และการประสานงานของสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ ถือว่าได้รับความสนใจจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก”
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในกลุ่ม Test&go หรือนักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยงต่ำจาก 63 ประเทศ พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวค่อนข้างมากและยังมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบางส่วนจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่มีญาติพำนักอยู่ในประเทศไทยและหาโอกาสเดินทางมาเยี่ยมหลังการเปิดประเทศ
นายขจรเดช ยังเผยถึงความพร้อมของสถานประกอบการโรงแรมในเมืองพัทยา หลังภาครัฐได้มีข้อกำหนดในการจัดทำมาตรฐาน SHA+ ตามรูปแบบของกระทรวงสาธารณสุข ว่า ขณะนี้มีจำนวนสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐานดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจุบันโรงแรมในเมืองพัทยาที่ได้มาตรฐาน SHA+ มีแล้วกว่า 200 แห่ง และยังมีกลุ่มผู้ประกอบการที่กำลังเข้าสู่กระบวนการตรวจหลักเกณฑ์เพื่อให้ได้มาตรฐานอีกจำนวนมาก
“ส่วนกรณีที่ภาคธุรกิจมีความกังวลเรื่องระบบการขนส่งที่ต้องผ่านมาตรฐาน SHA+ ด้วยเช่นกันจึงเกรงว่าอาจจะไม่เพียงพอต่องานบริการนั้น ปัจจุบันเมืองพัทยามีบริษัทขนส่งที่เข้าสู่ระบบแล้วพอสมควร ซึ่งหลังจากรับนักท่องเที่ยวสามารถนำไปตรวจ RT-PCR ที่สถานพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว หรือเรียกว่าระบบ Drive True โดยไม่สร้างความล่าช้าหรือความวุ่นวายให้แก่นักท่องเที่ยว”
นายขจรเดช ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า เมืองพัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาถือเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักอันดับที่ 3 ของประเทศ รองจาก กทม.และภูเก็ต และยังสามารถสร้างรายได้แต่ละปีไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท
แต่เมื่อเกิดการแพพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวในภาพรวมต้องหยุดชะงักไป แต่เมื่อมีการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการเริ่มต้นสัญญาณที่ดี
โดยคาดการณ์ว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 เมืองพัทยา จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท และเมื่อมาตรการต่างๆ ผ่อนคลายมากขึ้นภาพรวมการท่องเที่ยวย่อมจะดีตามไปด้วย และจะเห็นความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นในช่วงต้นปี 2565