อุทัยธานี - ตำรวจอุทัยธานีคุมตัวหนุ่มวัย 35 ปี มือจุดไฟเผาเรือนแพสะแกกรังวอด 3 หลังติด อ้างแค้นเมียที่เพิ่งแต่งงานได้ 3 วัน ไม่คืนเงินที่ยืมไป 1 หมื่นบาท
ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้แพในแม่น้ำสะแกกรัง เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน 64 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอุทัยธานีต้องนำเรือดับเพลิงเร่งเข้าดับไฟ แต่ด้วยตัวแพเป็นไม้จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เรือนแพถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง 1 เรือนแพ และแพที่อยู่ติดกันอีก 2 เรือนแพ ได้รับความเสียหายไปด้วย
โชคดีขณะนั้นไม่มีคนอยู่บนเรือนแพ จึงไม่มีผู้ใดผู้ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงทรัพย์สินที่อยู่ภายในเรือนแพทั้ง 3 หลังเท่านั้นที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุทัยธานี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ กระทั่งสืบทราบว่าเกิดจากการลอบวางเพลิง รวมทั้งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้คือ นายอุเทน จันทร์ อายุ 35 ปี ซึ่งมีอาการป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ได้ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง จึงนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ (6 พ.ย. 64)
นางสาวจีรวรรณ จันทร์คนธ์ เจ้าของแพต้นเพลิง เลขที่แพ 297 แพคลองสะแกกรัง ต.อุทัยใหม่ อ.เมืองอุทัยธานี เปิดเผยว่า ตนกับนายอุเทนผู้ก่อเหตุได้แต่งงานและจดทะเบียนสมรสอยู่ด้วยกันได้เพียงแค่ 3 วัน แต่นายอุเทนมักชอบโกหกและชอบตามไปดุด่าตนถึงที่ทำงาน
ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ไปขอหย่า แต่นายอุเทนจะขอตามมานอนในแพที่เกิดเหตุด้วย แต่ตนไม่ยอม จึงคาดว่านายอุเทนคงจะคิดแค้นเคือง จึงแอบมาจุดไฟที่แพในเวลากลางคืนจนแพไหม้หมด
ด้านนายอุเทน ผู้ก่อเหตุ เล่าถึงสาเหตุที่จุดไฟเผาเรือนแพให้ฟังว่า แค้นนางสาวจีรวรรณได้ยืมไป 1 หมื่นบาทแล้วไม่คืน โดยก่อนหน้าที่จะจุดไฟเผาเรือนแพของนางสาวจีรวรรณ 1 วัน ตนได้เสพยาไปด้วย และได้ใช้ไฟแช็กจุดที่สแลนของเรือนแพ ซึ่งก็ไม่คิดว่าไฟจะลามไปไหม้เรือนแพคนอื่นด้วย