เชียงใหม่ - ตำรวจภูธรภาค 5 สนธิกำลังทหาร ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส.ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ 20-31 ตุลาฯ ยึดยาบ้าเบ็ดเสร็จประมาณ 20 ล้านเม็ด ไอซ์ 631 กก. เฮโรอีน 7 กก. พร้อมอาวุธปืนอีก 500 กว่ากระบอก
วันนี้ (2 พ.ย. ) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ฝ่ายปกครอง หน่วยทหารกองทัพภาคที่ 3 และ ป.ป.ส.ภาค 5 แถลงสรุปผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรมตามเป้าหมายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดในห้วงวันที่ 20 -31 ตุลาคม 2564 ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหา ความผิดเกี่ยวกับการพนัน 1,017 ราย ผู้ต้องหา 1,136 คน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 3,567 ราย ผู้ต้องหา 2,681 คน ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง 770 ราย ผู้ต้องหา 772 คน ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน 1,240 ราย ผู้ต้องหา 796 คน ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ 90 ราย ผู้ต้องหา 89 คน จับกุมบุคคลตามหมายจับ 2,081 ราย ผู้ต้องหา 2,057 คน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 288 ราย ผู้ต้องหา 75 คน รวมทั้งสิ้น 9,053 ราย ผู้ต้องหา 7,606 คน
ผลการปฏิบัติที่สำคัญ มีการจับกุมเกี่ยวกับยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ต่างๆ รวมของกลางทั้งหมด ยาบ้า 19,896,000 เม็ด, ไอซ์ 631 กก. และเฮโรอีน 7 กก. ประกอบด้วย ท้องที่ สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ยึดยาบ้า 100,000 เม็ด เมื่อ 20 ต.ค. 64, ท้องที่ สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย ยึดยาบ้า 310,000 เม็ด ไอซ์ 58 กก. เฮโรอีน 7 กก. (20 ต.ค. 64), ท้องที่ สภ.เมืองเชียงราย-แม่สรวย ยึดยาบ้า 1,696,000 เม็ด ไอซ์ 9 กก. (20 ต.ค. 64)
ขณะที่ กก.สส.ภ.5 ร่วมกับ ป.ป.ส.ติดตามจับกุมยาบ้า 4,400,000 เม็ด ไอซ์ 288 กก. (20 ต.ค. 64) ที่ขนจากต้นทาง อ.ภูซาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา ไปถึง จ.พระนครศรีอยุธยา, สภ.ห้วยไร่ จ.แพร่ ยึดยาบ้า 5,000,000 เม็ด (23 ต.ค. 64) และ สภ.แม่ลาว จ.เชียงราย ยึดยาไอซ์ 235 กก. (29 ต.ค. 64)
โดยวันนี้ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้นำมาร่วมแถลงข่าวจำนวน 3 คดี ประกอบด้วย คดีที่ 1 เจ้าหน้าที่จุดตรวจแพร่ธรรมาราม อ.เด่นชัย จ.แพร่ ของกลางยาบ้า 7,970,000 เม็ด และรถยนต์ขนส่ง 6 ล้อ จำนวน 1 คัน เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2564 เวลา 10.00 น. หลังคนขับรถยนต์บรรทุกรายหนึ่งได้รับการติดต่อจากเพื่อนกลุ่มขับรถรับจ้างให้ไปรับงานที่ห้องพัก ต.ร่องฟอง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เพื่อนำส่งปลายทางเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งผู้ติดต่อแจ้งว่าเป็นสุ่มไก่
เมื่อถึงจุดขึ้นของมีผู้ชาย 2 คนยกของขึ้นรถบรรทุกเป็นลังไม้และสุ่มไก่ นายรุ่งเพชรจะช่วยยกของขึ้นรถ ชายทั้งสองบอกว่าไม่ต้องช่วย และไม่ต้องเปิดลังดูเพราะข้างในเป็นยาสำหรับไก่ชน ระหว่างที่รอผู้ชายทั้งสองยกของขึ้นรถบรรทุก นายรุ่งเพชรก็เดินไปทำธุระส่วนตัวที่ปั๊ม เมื่อกลับมาถึงรถบรรทุกชายทั้งสองก็แจ้งว่าเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นนายรุ่งเพชรก็คลุมผ้าใบท้ายรถและขับรถบรรทุกออกจากจุดขึ้นของมุ่งหน้าไปตามเส้นทาง อ.เด่นชัย-อุตรดิตถ์ เมื่อมาถึงปั๊มน้ำมันท้องที่ อ.เด่นชัย นายรุ่งเพชรจึงหยุดรถ แล้วเปิดดูลังไม้ที่บรรทุกมาให้หายสงสัยว่าเป็นสิ่งของผิดกฎหมายหรือไม่ พบด้านในลังไม้มีถุงสีดำบรรจุก้อนสี่เหลี่ยมห่อด้วยกระดาษสีเหลืองประทับตรา 999 จึงโทรศัพท์แจ้ง สภ.เด่นชัยช่วยตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นยาบ้า จำนวน 54 ถุง สรุปยาบ้าจำนวน 7,970,000 เม็ด ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อติดตามหาผู้กระทำผิด และผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 เมื่อ 30 ต.ค. 64 เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสะเลียมหวาน สภ.เวียงมอก จ.ลำปาง จับกุมนายศักดิ์สิทธิ์ อาพันทอง อายุ 47 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.สมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมยาบ้า 599,600 เม็ด, ไอซ์ 41 กิโลกรัม
โดยพบว่านายศักดิ์สิทธิ์ขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กง 5906 กาญจนบุรี ผ่านมาที่ด่านตรวจ เมื่อตรวจค้นพบยาบ้า ลักษณะกลมแบน ประทับอักษร WY จำนวนประมาณ 599,600 เม็ด และไอซ์จำนวน 41 ห่อ น้ำหนัก 41 กก. ซุกซ่อนอยู่บริเวณด้านหลังรถยนต์ ซึ่งผู้ต้องหารับว่าของกลางทั้งหมดรับมาจาก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งไปให้เป้าหมายที่กรุงเทพมหานคร ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 3 เมื่อ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ทหาร กกล.ผาเมืองตรวจพบกลุ่มคนประมาณ 4 คน แบกถุงพลาสติกสีดำเดินมาจากประเทศเมียนมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอทำการตรวจค้น กลุ่มคนดังกล่าวจึงได้ทิ้งถุงพลาสติกสีดำไว้แล้ววิ่งหลบหนีกลับไปยังประเทศเมียนมา ชป.ขอกำลังสนับสนุนเข้าปิดล้อมสถานที่เกิดเหตุ ตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยรอบพบวัตถุมีลักษณะเป็นกล่อง ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำจำนวน 2 กล่อง บรรจุยาบ้ากล่องละประมาณ 160,000 เม็ด รวมเป็นยาบ้าทั้งหมด 320,000 เม็ด ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามหาผู้กระทำผิด และผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.ปิยะย้ำว่า ตำรวจภูธรภาค 5 จะร่วมมือกันทุกภาคส่วนสกัดกั้นยาเสพติดที่จะผ่านเข้ามาตอนในของประเทศ โดยร่วมกับกองกำลังผาเมืองในพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือ 38 จุดตรวจ และร่วมกับ ป.ป.ส.ในการริบทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 อย่างจริงจัง และให้มีผลการปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมตามนโยบายของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ตำรวจภูธรภาค 5 ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน เพื่อร่วมกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน บุคคลใกล้ชิด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม โดยเฉพาะยาเสพติดและอาวุธปืนในหมู่บ้าน/ชุมชน โดยสามารถแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วน 1599, สายด่วน 191, line@inthanon1(ผบช.ภ.5) และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชม. ในการดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทุกรูปแบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและสร้างความอุ่นใจในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม