xs
xsm
sm
md
lg

เบ็ดเสร็จ! ยึดยาบ้ากว่า 2 ล้าน ไอซ์ 67 กก. เฮโรอีนอีก 7 กิโลฯ ตร.ภาค 5 แกะรอยหัวโจกก่อนรวบแก๊งยานรกยกกระบิ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่/เชียงราย - ตำรวจ ภ.5 สนธิกำลัง ภ.จว.เชียงราย แกะรอยหัวโจกมีหมายจับศาลเมืองกาญจน์ขยับขึ้นเหนือนำขบวนขนยานรกฝ่าด่านบนถนน ทล.118 เชียงราย-เชียงใหม่ ต้องไล่ล่าถึงจนมุม เค้นสอบตามรวบเครือข่ายยกกระบิ ยึดยาบ้ารวมกว่า 2 ล้านเม็ด ไอซ์ 67 กิโลกรัม เฮโรอีน 7 กิโลกรัม



วันนี้ (22 ต.ค. 64) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าฯ เชียงราย พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้แถลงข่าวการติดตามจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด 2 คดีใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย คดีที่ 1 จับกุมผู้ต้องหา 5 คน ยาบ้า 310,000 เม็ด ไอซ์ 58 กก., เฮโรอีน 20 แท่ง ประมาณ 7 กก. คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหา 4 คน ยาบ้า 1,696,000 เม็ด ไอซ์ 9 กก.

การจับกุมมีขึ้นหลังชุดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดพื้นที่ตอนใน ตำรวจภูธรภาค 5 ได้สืบสวนจากแหล่งข่าวพบว่า นายเรวัต รุ่งกระจ่าง อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 87/2 หมู่ที่ 7 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดของศาลจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับพวกลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนด้านจังหวัดเชียงรายเข้าสู่พื้นที่ จ.นครปฐม-กาญจนบุรี จึงสืบสวนติดตามพฤติการณ์

กระทั่งเวลา 04.00 น. วันที่ 20 ต.ค.ได้ตรวจพบว่านายเรวัต หรือวัฒน์ รุ่งกระจ่าง ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 ขฬ 7383 กรุงเทพฯ ไปทางถนนสายเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันออก ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ติดกับแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว โดยมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ขับนำมุ่งหน้าไปตามถนนสายเชียงแสน-เชียงราย

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยรถทั้งสองคันผ่าน อ.แม่จัน และ อ.เมืองเชียงราย มุ่งหน้าไปตามถนนพหลโยธินสายเชียงราย-พะเยา แต่เมื่อถึง อ.แม่ลาวพบรถเป้าหมายได้เลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 118 สายเชียงราย-เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานกับตำรวจด่านตรวจยาเสพติดท่าก๊อ สภ.แม่สรวย เรียกตรวจ แต่ปรากฏว่ามีเพียงรถคันสีดำที่หยุดให้ตรวจ แต่รถเก๋งสีขาว (ทะเบียน 1 ขฬ 7383 กรุงเทพฯ) ได้ขับฝ่าด่านตรวจไปอย่างรวดเร็ว


เจ้าหน้าที่จึงนำรถออกไล่ติดตามจนคนขับรถยนต์เก๋งนำรถไปจอดภายในโรงแรมแห่งหนึ่งเขต อ.แม่สรวย ห่างจากปากทางขึ้นดอยวาวีประมาณ 150 เมตร แล้วคนขับได้วิ่งไปจนถึงปากทางขึ้นดอยวาวี แต่เจ้าหน้าที่วิ่งไล่ทันและจับกุมตัวได้อย่างฉุกละหุก ตรวจสอบทราบชื่อต่อมาคือ นายสงกรานต์ หรือบ่าว เดชฤทัยภักดี อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 94 หมู่ที่ 10 ต.สันกาแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

จากการตรวจค้นในรถเก๋งฮอนด้าที่นายบ่าวขับหลบหนี พบกระสอบฟางสีรุ้งวางอยู่บนเบาะที่นั่งภายในห้องโดยสารด้านหลังคนขับจำนวน 2 ใบ และอยู่ในช่องเก็บสัมภาระท้ายรถจำนวน 3 กระสอบ รวมทั้งหมด 5 กระสอบ ภายในมีเฮโรอีนจำนวน 20 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 7 กิโลกรัม ไอซ์จำนวน 58 ถุง น้ำหนักประมาณ 58 กิโลกรัม และยาบ้าจำนวน 310,000 เม็ด

ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ถูกสกัดได้ที่ด่านตรวจมีนายเรวัตเป็นคนขับ ยังพบนายธีรวัฒน์ หรือเก็ต หลวงแก้ว อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 20/1 หมู่ที่ 2 ต.แม่ปูคา อ.สันกำแพง, น.ส.รุ่งทิวา หรือนา ชูวงศ์ประทาน อายุ 34 ปี ที่อยู่ 36 บ้านเลขที่ 8 ต.ปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และ น.ส.นารีรัตน์ หรือเก๋ ก๋าแก้ว อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 41 หมู่ที่ 7 ต.บ้านแป้น อ.เมืองลาพูน จ.ลำพูน นั่งโดยสารมาด้วย ซึ่งนายเรวัตให้การว่าเป็นคนขับรถนำทางให้นายสงกรานต์จากชายแดนเพื่อจะนำของไปส่งเครือข่ายพื้นที่ตอนในของประเทศ


เจ้าหน้าที่ยังได้สอบปากคำขยายผลจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้ที่สามแยกไฟแดงสันทราย ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย ประกอบด้วย นายอาทิตย์ทอง หรือปิ๊บ จันทร์นิ่ม อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 69/13 ซ.สามวา 19 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ และนายชัยพร หรือกั๊ก อัมพบุตร อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 14 หมู่ 8 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี

พร้อมตรวจยึดของกลางเพิ่มเติมเป็นยาบ้า 9 กระสอบ รวมยาบ้า 1,696,000 เม็ด ไอซ์ จำนวน 8 ถุง น้ำหนักประมาณ 9 กิโลกรัม รถยนต์มินิแวน ยี่ห้อเกีย หมายเลขทะเบียน ชฎ 4095 กรุงเทพฯ ซึ่งผู้ต้องหาให้การซัดทอดต่ออีก ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถขยายผลไปจับกุมนายบรรจง หรือจง เงาแก้ว อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 97 หมู่ 3 ต.ปงน้อย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย และนายธีราวุฒิ หรือซอน พุทธวงค์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 105 หมู่ 1 ต.ปงน้อย เนื่องจากถูกซัดทอดว่าเป็นผู้นำเอายาเสพติดดังกล่าวมาส่งมอบให้

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า การจับกุมคดีดังกล่าวเป็นการบูรณาการความร่วมมือของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนี้จะได้เร่งรัดขยายผลจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องและยึดทรัพย์สินเพื่อทำลายเครือข่ายตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น