พิษณุโลก - ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพิษณุโลกระดมภาคเอกชนปั้นรูตท่องเที่ยวเมืองสองแคว ล้างภาพเมืองผ่าน แวะเพียงวัดใหญ่-กินเตี๋ยวห้อยขาก่อนไปเขาค้อ หรือจบทริปเชียงใหม่-เชียงราย
นางปริษา ปานพรหม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพิษณุโลก ได้เรียกประชุมที่ปรึกษาด้านท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก, สมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดพิษณุโลก และสมาคมต่างๆ เพื่อปรึกษาหาแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดพิษณุโลกให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพิษณุโลกกล่าวว่า พิษณุโลกมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง แต่ไม่ได้ร้อยเรียงหรือทำเป็นรูตการท่องเที่ยว ทำให้คนที่เดินทางมาพิษณุโลกไปเที่ยวเพียงวัดใหญ่ กราบไหว้พระพุทธชินราช หรืออย่างมากก็ไปกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ซื้อกล้วยตาก จากนั้นเดินทางต่อนำเงินไปจับจ่ายใช้สอยสะพัดที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ บ้างก็ขึ้นเหนือไปจบทริปที่เชียงใหม่-เชียงราย
ดังนั้น 6 เดือนแรกที่ตนมารับตำแหน่ง จะต้องนำข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพิษณุโลกมาร้อยเรียงให้ได้ เช่น ระหว่างที่ไปท่องเที่ยวเขาหินปู อ.เนินมะปราง หรือ อ.ชาติตระการ จะต้องทราบว่ามีร้านกาแฟ หรือจุดท่องเที่ยวระหว่างทางอื่นๆ เพื่อที่จะนำสินค้ามาทำเป็นรูต และจะเติมเต็มหรือพัฒนาในสิ่งที่ขาดต่อไป
“ปัจจุบันพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปแล้ว แบบกรุ๊ปทัวร์มากันน้อยมาก ส่วนใหญ่นิยมขับรถมาแบบครอบครัว ดังนั้นร้านอาหารหรือร้านกาแฟต้องมีจุดขาย ขอให้ได้รับการโปรโมตทางโลกออนไลน์ให้ได้ ไกลแค่ไหนเขาก็ไป เพราะนักท่องเที่ยวเพียงแค่ไปถ่ายรูปขึ้นเฟซบุ๊กก็บรรลุเป้าหมายแล้ว ไม่สนแหล่งท่องเที่ยวเก่าๆ เชยๆ อีกต่อไป”
นางปริษากล่าวว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวต่อไปต้องเน้นไปทางกีฬา การปั่นจักรยานที่จังหวัดฯ จะทำขึ้นมานั้นต้องทำกิจกรรมให้คุ้มค่า ต้องทำให้ขบวนจักรยานมีคนร่วมเยอะๆ ไม่ใช่เพียงแค่ 10 คน อย่าทำกิจกรรมแบบขอไปที หรือทิ้งๆ ขว้างๆ ทำแค่ได้รับงบประมาณมา จะต้องดึงทุกๆ สมาคมหรือชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม อาทิ การเปิดสะพานแห่งใหม่ที่หน้าพระราชวังจันทน์ อาจต้องทำกิจกรรมเดิน-วิ่ง-แอโรบิก-จักรยาน ต้องดึงทุกหน่วยเข้ามาร่วม
นางศศิวัณย์ ศรีพรหม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก และนายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลได้ประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ สิ่งแรกการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพิษณุโลกจะต้องสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว สร้างความเข้าใจให้ชุมชน ผลักดันมาตรฐานการท่องเที่ยวพิษณุโลกแบบปลอดภัยยุคปกติใหม่ หรือ SHA
และต้องดึงกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชนหรือวัยรุ่นสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้มีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มนี้ก็จะกระจายไปตามกลุ่มท่องเที่ยวเจเนอเรชันใหม่ๆ ต่อไป และในรอบ 6 เดือนนับจากนี้ควรจะเชิญสมาคมเกี่ยวกับการท่องเที่ยว-ผู้ประกอบการมาจัดทำและกำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนให้มากยิ่งขึ้น เช่น แหล่งท่องเที่ยวชุมชนบ้านน้ำจวง อ.ชาติตระการ ที่มีนาขั้นบันได, ชมความงามต้นซากุระญี่ปุ่น ที่บ้านใหม่ร่องกล้า อ.นครไทย หรือ Healthy & Wellness Route ชุมชนใน 9 อำเภอ เป็นต้น