เชียงใหม่-ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ชี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่พุ่งสูงต่อเนื่องมาจากการระดมตรวจเชิงรุกและเร่งควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด ยืนยันทุกฝ่ายทำงานเต็มที่เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ขณะที่นายแพทย์ สสจ.ยอมรับสถานการณ์วิกฤต ผู้ติดเชื้อเพิ่มวันละ 300 ราย ส่งผลเตียงผู้ป่วยหนักเต็ม แต่กำลังเร่งขยายรองรับและเชื่อมั่นยังบริหารจัดการได้
วันนี้(29 ต.ค.64) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19ของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ในช่วงนี้ยอมรับว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ในระดับที่ค่อนข้างมาก แต่จำนวนที่มากดังกล่าวนั้นเนื่องมาจากการดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุก เพื่อนำเข้าสู่ระบบและกระบวนการรักษา โดยเป็นการตรวจคัดกรองพบผู้ติดเชื้อแล้วควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อไปมากยิ่งขึ้น ซึ่งเท่ากับการยิ่งตรวจพบมากเท่าใดยิ่งสามารถควบคุมได้มากเท่านั้น ทั้งนี้พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงและต้องเฝ้าระวังอย่างมากในเวลานี้ อยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยเฉพาะชุมชนต่างๆ ที่จากนี้จะมีการระดมตรวจเชิงรุกเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่าอาจจะทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกมาก เพราะเป็นการดำเนินการตรวจเพื่อเร่งควบคุม
ส่วนกรณีเตียงรับผู้ป่วยอาการหนักหรือเตียงสีแดงของเชียงใหม่ที่เต็มแล้วนั้น กำลังอยู่ในกระบวนการของสาธารณสุขที่จะขยายเพิ่มเพื่อรองรับหรืออาจจะส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลในจังหวัดข้างเคียง โดยยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเวลานี้น่าเป็นห่วงและจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง แม้จังหวัดเชียงใหม่จะมีผู้ติดเชื้อสะสมเพียงหมื่นกว่าคนจากจำนวนประชากรประมาณ 1.7ล้านคน ทั้งนี้สิ่งสำคัญต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกคนในการช่วยป้องกันตัวเองเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ส่วนทางจังหวัดเชียงใหม่และทุกหน่วยงานเกี่ยวาข้องยืนยันจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการเปิดการท่องเที่ยวตามโครงการชาร์มมิ่ง เชียงใหม่ เริ่ม1พ.ย.64นี้ว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวตามโครงการนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 46 ประเทศเสี่ยงต่ำ ซึ่งจะเข้ามาท่องเที่ยวใน 4อำเภอนำร่อง และแหล่งท่องเที่ยวที่กำหนด ขณะที่นักท่องเที่ยวคนไทยนั้น สามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ อย่างเคร่งครัด เช่น ต้องฉีดวัคซีนครบตามกำหนด หรือมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ ภายในเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง เป็นต้น ซึ่งการเปิดท่องเที่ยวนั้น มองว่าสามารถทำได้ เพราะพื้นที่หมู่บ้าน80%ปลอดโควิด-19 ฉะนั้นจะให้ปิดทั้งจังหวัดคงจะไม่ได้
ด้านนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19ว่า ช่วงนี้จังหวัดเชียงใหม่ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19เพิ่มเฉลี่ยวันละประมาณ 300 ราย หากต่อเนื่องกัน 10 วัน จะเท่ากับ 3,000 ราย ซึ่งปกติผู้ติดเชื้อประมาณ 3% จากทั้งหมดจะมีอาการรุนแรง โดยจากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เตียงรองรับผู้ป่วยอาการรุนแรงหรือสีแดงเต็ม อย่างไรก็ตามยืนยันว่ายังสามารถดูแลบริหารจัดการได้ และยังสามารถขยายเตียงรองรับได้อีก ซึ่งเวลานี้มีแผนที่จะขยายเตียงรองรับผู้ป่วยอาการปานกลางหรือสีเหลืองเพิ่มอีก 200 เตียง ขณะเดียวกันมีแพทย์ พยาบาลและบุคลากร รวมทั้งอุปกรณ์จากจังหวัดใกล้เคียงและกรุงเทพฯ พร้อมสนับสนุนเพิ่มเติมด้วย
สำหรับประเด็นเรื่องสถานการณ์โควิด-19ของจังหวัดเชียงใหม่เข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้วหรือไม่นั้น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า สถานการณ์วิกฤตในเวลานี้หมายถึงตึง แต่ยืนยันว่าสถานการณ์ยังอยู่ในวิถีที่สามารถบริหารจัดการได้อยู่ และอุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยสีแดงยังมีเพียงพอ ทั้งนี้หากสามารถาควบคุมสถานการณ์และลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้อยู่ในระดับไม่เกินวันละ 200 ราย เชื่อมั่นว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ดีขึ้น ซึ่งต้องเน้นย้ำขอความร่วมมือทุกคนในการช่วยกันป้องกันเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเพื่อลดการติดเชื้อรายใหม่.
