ประจวบคีรีขันธ์ - นายกเทศบาล กม.5 จ่อ ถอนใบอนุญาตโรงงานรับซื้อน้ำนมดิบหลังลักไก่ปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะจนชาวบ้านสุดทน
วันนี้ (26 ต.ค.) นายเกียรติศักดิ์ นุชนงค์ นายกเทศมนตรีตำบล กม.5 ได้นำทีมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมือง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบฯ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานรับซื้อน้ำนมดิบ ของนายรัส หมื่นสุข ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 7 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังพบการร้องเรียนจากชาวบ้านผ่านศูนย์ดำรงธรรม และช่องทางต่างๆ ถึงกรณีการปล่อยน้ำเสียสู่คลองสาธารณะที่ชาวบ้านตำบลอ่าวน้อยได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันมาเป็นระยะเวลานาน
จากการตรวจสอบโรงงานดังกล่าวได้ขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเล่มที่ 01 เลขที่ 25/2563 สิ้นสุดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 และเล่มที่ 01 เลขที่ 26/2563 หมวดที่ 1 กิจการที่เกี่ยวกับสัตว์ ประเภท 2 การเลี้ยงสัตว์เพื่อรีดเอาน้ำนม ออกให้เมื่อวันนี้ 25 พ.ย.63 สิ้นสุดวันที่ 4 พ.ย.64 โดยเทศบาลตำบล กม.5
โดยด้านหน้าโรงงานเปิดเป็นโรงงานรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในพื้นที่ตำบาลอ่าวน้อย และใกล้เคียง ด้านข้างโรงงานรับซื้อน้ำนมดิบเปิดเป็นโกดังจำหน่ายอาหารสัตว์แปรรูปหลายชนิด นอกจากนี้ ยังมีโรงเรือนเลี้ยงโคนมและลูกโคนมจำนวนมากส่งกลิ่นเหม็นตลอดเวลาจากมูลสัตว์ที่สะสมซึ่งจากการสอบถาม นายรัส หมื่นสุข เจ้าของโรงงานรับซื้อน้ำนมดิบเปิดเผยว่า หากเป็นช่วงหน้าฝนหรือฤดูมรสุมที่มีฝนตกลงมาเป็นจำนวนมากน้ำในฟาร์มโคนมจะล้นลงไปในลำคลองสาธารณะทำให้ส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากบ่อพักมูลสัตว์ที่ตนเคยทำไว้ไม่สามารถเก็บน้ำได้เนื่องจากมีขนาดไม่ใหญ่มากทำให้ต้องสูบออกไปทิ้งเดือนละ 1 ครั้ง แต่ปัจจุบันรถสูบน้ำคันดังกล่าวเสียจึงไม่สามารถดำเนินการได้
ด้านนายเกียรติศักดิ์ นุชนงค์ นายกเทศมนตรีตำบล กม.5 กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวได้รับการร้องเรียนมาโดยตลอดถึงปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงลำคลองสาธารณะที่มีชาวบ้านในพื้นที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันตลอดทั้งลำคลอง ปัจจุบัน พบว่าน้ำในลำคลองไม่สามารถนำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงสัตว์ หรือภาคเกษตรเนื่องจากน้ำในลำคลองเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปตลอดทั้งลำคลองจากมูลสัตว์ที่โรงงานรับซื้อน้ำนมดิบปล่อยทิ้งลงมา ซึ่งเบื้องต้น ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีการปล่อยน้ำเสียพร้อมมูลสัตว์ลงลำคลองสาธารณะตลอดเวลา จึงได้สั่งระงับการปล่อยน้ำเสียลงลำคลองสาธารณะก่อนทันที
จากนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานให้ดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน หากพบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535 อีกครั้งจะสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการต่อไป
นอกจากนี้ นายเกียรติศักดิ์ นุชนงค์ ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการอย่างจริงจัง เนื่องจากฟาร์มดังกล่าวเคยได้รับการร้องเรียนมาแล้ว แต่มิได้มีการแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น และยังก่อปัญหาให้ชุมชน เกษตรกรที่ใช้น้ำในลำคลองดังกล่าวมาโดยตลอด