ศรีสะเกษ - นายกสมาคมท่องเที่ยวศรีสะเกษหนุนรัฐบาลเปิดประเทศ 1 พ.ย. เผยแหล่งท่องเที่ยวทุกแห่งศรีสะเกษพร้อมเต็มที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวภายใต้มาตรการคุมเข้มโควิด-19 วอนทุกคนต้องช่วยกัน เผยยุควิถีใหม่ไทยเป็นประเทศน่าท่องเที่ยวและปลอดภัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
วันนี้ (25 ต.ค.) ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 64 เพื่อนำนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพจาก 46 ประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง จะส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมนั้น ตนเห็นด้วยที่จะมีการเปิดประเทศ เพราะก่อนเปิดประเทศต้องมีมาตรการออกมาก่อนว่าคนที่เข้ามาจากต่างประเทศซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวอย่างน้อยต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดส พอมาถึงประเทศไทยต้องมีหลักฐานในการตรวจเชื้อโควิด-19 จากประเทศของตัวเองอยู่แล้ว พอมาถึงเมืองไทยต้องตรวจอีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นจะเป็นการเซฟตี้ในการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
“การเปิดประเทศมันถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องช่วยกัน โดยที่ทุกคนจะต้องพากันไปฉีดวัคซีนเพื่อจะได้เป็นการป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งหากไม่เปิดประเทศในช่วงนี้ก็จะทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวและธุรกิจการค้าขายต่างๆ กระทบกระเทือนไปหมดเนื่องจากปิดประเทศมานานเกินไป” ดร.กัลยาณีกล่าว
ดร.กัลยาณีกล่าวต่อว่า ขอให้ทุกคนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วจะต้องป้องกันตัวเอง โดยต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม ล้างมือบ่อยๆ ซึ่งตนคิดว่าจะสามารถท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ได้ ดีใจที่นายกรัฐมนตรีจะเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. ซึ่งเรื่องแบบนี้อยู่ที่ทุกคนจะต้องช่วยกัน
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ตอนนี้มีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่ จ.ศรีสะเกษอย่างเต็มที่ เช่น ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดมาก และเป็นที่โล่งแจ้งการเข้าไปกราบไหว้ขอพรจากหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาก็จัดอย่างเป็นระบบ มีการเว้นระยะห่าง มีตู้อบยาฆ่าเชื้อไวรัส มีการแจกแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ และวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้ที่จะเข้าไปกราบไหว้ขอพรจากหลวงปู่สรวง
นอกจากนี้แล้ว จ.ศรีสะเกษมีสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงามอีกจำนวนมาก เช่น จุดชมวิวผาพญากูปรี น้ำตกห้วยจันทร์ ชมทะเลหมอกที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร วัดสระกำแพงใหญ่ วัดพระธาตุเรืองรอง สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ วัดมหาพุทธาราม หาดบ้านแก้ง และหาดนางเหงา เป็นต้น
ดร.กัลยาณีกล่าวต่อว่า จ.ศรีสะเกษถือว่ามีความพร้อมมากในการต้อนรับนักท่องเที่ยว และตนอยากให้ จ.ศรีสะเกษมีความพร้อมในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ถึง 70% คาดว่าสิ้นเดือน ต.ค. 64 นี้จะสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้ประมาณ 700,000 คน จากจำนวนประชากร 1,400,000 คน โดยทางโรงพยาบาลทุกแห่งและสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษได้พยายามเร่งรัดในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนชาวศรีสะเกษทุกคน
จ.ศรีสะเกษยินดีที่จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศและจากต่างประเทศที่อนุญาตให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้แล้ว ถึงแม้รัฐบาลจะเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 64 แต่ช่วงนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยและ จ.ศรีสะเกษบ้างแล้ว ขอฝากเชิญชวนถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ถือได้ว่าประชาชนมีวินัยในเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัย ในขณะที่ประเทศบางประเทศยังบังคับไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ประเทศไทยเราจะสังเกตได้ว่าแม้แต่การนั่งรถมอเตอร์ไซค์หรือเดินไปมาทุกคนจะสวมใส่หน้ากากอนามัยทั้งหมด และทุกคนเริ่มเคยชินกับการล้างมือ การเว้นระยะห่างทางสังคม
“หากเราได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเป้าหมายที่ทางรัฐบาลตั้งเอาไว้แล้วจะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนสามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว แพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลทุกแห่งเก่งมาก จะสามารถดูแลนักท่องเที่ยวทุกคนได้เป็นอย่างดี” ดร.กัลยาณีกล่าวในตอนท้าย
