xs
xsm
sm
md
lg

สาวพิษณุโลกโดนสิบแปดมงกุฎอ้างเป็น พนง.ขนส่ง-ผกก.โรงพัก ข่มขู่ฐานส่งของผิดกฎหมายเข้าจีน จนหลงโอนเงิน 1.2 แสนเคลียร์คดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิษณุโลก - สาวเมืองสองแควเผยนาทีตกเป็นเหยื่อแก๊งสิบแปดมงกุฎอ้างเป็นพนักงานบริษัทขนส่งแจ้งส่งของผิดกฎหมายไปประเทศจีน ก่อนลวงโอนให้คุยกับคนอ้างตัวเป็นร้อยเวร-ผกก.สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่ หว่านล้อม-ข่มขู่กดดันจนหลงโอนเงิน 1.2 แสนค่าเคลียร์คดี แจ้งความมา 2 สัปดาห์คดีไม่คืบ



วันนี้ (23 ต.ค. 64) นางสาวน้อย (สงวนนามสกุล) สาวชาวพิษณุโลก อายุ 29 ปี ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนหลังเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลกเมื่อ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ไม่มีความคืบหน้า กรณีมีโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งชื่อดังแจ้งว่ามีพัสดุระบุชื่อตนเองนำส่งไปกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน แล้วนำส่งไม่สำเร็จติดอยู่ที่ศุลกากรเชียงใหม่เนื่องจากเป็นของผิดกฎหมาย ซึ่งนางสาวน้อยยืนยันว่ามีความผิดพลาดแน่เพราะไม่เคยส่งพัสดุไปกรุงปักกิ่ง

หลังจากนั้นชายที่โทรศัพท์มาก็บอกอีกว่าเป็นไปได้ว่าคุณถูกโจรกรรมข้อมูลไปสวมชื่อส่งของผิดกฎหมาย โดยให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีผู้โดนลักษณะดังกล่าวนี้เยอะมาก พร้อมอาสาประสานงานให้ ก่อนโอนสายให้คุยกับผู้หญิงอีกคนที่อ้างว่าเป็นร้อยเวร ชื่อ “สุญาดา เอี่ยมนภา” ซักประวัตินางสาวน้อยเกือบ 1 ชั่วโมง และมีคำสั่งให้ผู้เสียหาย (นางสาวน้อย) เดินทางไปที่ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุภายใน 2 วันเพื่อจัดการเรื่องคดี

นางสาวน้อยบอกว่าตอนนั้นก็แจ้งกับมิจฉาชีพดังกล่าวว่าไม่สามารถไปได้เพราะพักอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก และยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด ผู้ที่อ้างตัวเป็นตำรวจหญิงก็แจ้งต่อว่าสามารถบันทึกให้ปากคำทางออนไลน์ได้ โดยจะต้องอยู่ในพื้นที่เงียบๆ และไม่มีบุคคลที่สาม

“ตอนนั้นก็เริ่มเอะใจแล้วเหมือนกัน แต่ก็คิดว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 นี้ วิธีการดังกล่าวอาจจะทำได้จริง จากนั้นมิจฉาชีพก็เริ่มซักประวัติว่ามีเส้นทางการเงินมาจากที่ใด ครอบครัวประกอบอาชีพอะไร มีบัญชีธนาคารกี่บัญชี ซึ่งตลอดเวลาที่ซักข้อมูลก็รู้สึกว่ามิจฉาชีพมีการใช้วิธีการทางจิตวิทยาข่มขู่ตลอดเวลาให้รู้สึกกลัวและกังวล เช่น บอกหมดแน่นะ มีอะไรปกปิดอีกไหม จะมีผลต่อรูปคดีนะ..”

เมื่อสอบถามทำนองสอบปากคำเสร็จ มิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจหญิงก็แจ้งว่าจะโอนสายต่อไปยังเบื้องบน จากนั้นผู้เสียหายก็ได้พูดคุยกับชายที่อ้างตัวเป็น ผกก.สภ.ช้างเผือก พร้อมหลอกลวงผู้เสียหายว่าได้ตรวจสอบข้อมูลสอบปากคำแล้วพบว่าเกี่ยวพันกับคดีฟอกเงินครั้งใหญ่ และถ้าบริสุทธิ์ใจจริงต้องยอมให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.เข้าไปตรวจเส้นทางการเงิน โดยจะมีจดหมายจาก ปปง.นำส่งไปให้ที่บ้าน พร้อมให้โอนเงินในบัญชีทั้งหมดเข้าบัญชีกลางของ ปปง. ใช้เวลาตรวจสอบ 1-2 ชั่วโมง และข่มขู่อีกว่าคดีนี้เป็นคดีใหญ่ที่ตำรวจตามสืบกันอยู่ ห้ามผู้เสียหายเล่าให้ใครฟัง 7 วันแม้แต่คนในครอบครัว จากนั้นมิจฉาชีพก็ส่งหมายเลขบัญชีมาให้ผู้เสียหาย จึงโอนเงินเก็บที่มีทั้งหมดไปให้ 120,000 บาท

นางสาวน้อย (ผู้เสียหาย) เปิดเผยว่า ตนเริ่มรู้สึกผิดสังเกตเพราะบัญชีปลายทางที่ให้โอนชื่อเป็นบุคคลธรรมดา แต่ก็ไม่รู้ว่าถูกจิตวิทยาอะไรจนยอมโอนเงินไป ก่อนที่ชายที่อ้างตัวเป็นผู้กำกับฯ จะแจ้งว่าระหว่างที่ตรวจสอบข้อมูลไม่ต้องวางสาย จะได้รู้ว่าแอบไปคุยกับบุคคลที่สามหรือไม่เพื่อความโปร่งใส จนกระบวนการเสร็จสิ้น

กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงตนเริ่มได้สติและรู้สึกตัวแล้วว่าโดนหลอกแน่ จึงรีบโทร.ไปที่ สภ.ช้างเผือกซึ่งเป็นสถานีตำรวจที่มิจฉาชีพใช้อ้างตัว พร้อมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ฟัง พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือกจึงได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.พิษณุโลก ก็พบว่ามีผู้เสียหายที่โดนลักษณะเดียวกันอีก 1 คน เป็นเคส สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ เหมือนกัน พนักงานสอบสวน สภ.พิษณุโลกจึงออกใบอายัดบัญชีของมิจฉาชีพ และให้รีบไปยื่นที่ธนาคารของผู้เสียหาย

แต่ตนก็กังวลว่ากว่าที่จะไปยื่นเรื่องต่อธนาคารมิจฉาชีพก็น่าจะถอนเงินของกลางออกไปแล้ว จึงอยากร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรีบติดตามนำผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ และอยากประชาสัมพันธ์ด้วยว่าหากใครถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวสามารถรวมกลุ่มกันเพื่อแจ้งความจะกลายเป็นคดีอาญาหรือมีผู้เสียหายถูกหลอกจำนวนมากเพื่อดีเอสไอจะได้ดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนหน้าผู้เสียหายรายนี้ทำงานประจำมีรายได้ดีอยู่กรุงเทพฯ แต่เนื่องจากมีอาการป่วยที่ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาจึงลาออกเพื่อกลับมาฟื้นฟูร่างกายที่บ้านเกิด เงินที่โอนไปให้แก๊งมิจฉาชีพทั้งหมดก็เป็นเงินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ที่หวังจะเอาไว้ใช้รักษาโรคประจำตัว และทางครอบครัวเองก็ยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และในสถานการณ์โควิด-19 ก็ยังไม่สามารถหางานทำได้ แต่ก็มาถูกหลอกลวงในครั้งนี้ จึงต้องการฝากเตือนเอาไว้เป็นอุทาหรณ์ จะได้ช่วยกันระวังตัวไม่ให้มีใครตกเป็นเหยื่ออีก


กำลังโหลดความคิดเห็น