ชัยนาท - เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเกิน 2,600 ลบ.ม. ทำน้ำล้นตลิ่งท่วม 3 ตำบลใน อ.สรรพยา ชาวบ้านต้องเร่งขนของหนีน้ำ ขึ้นไปอาศัยริมถนนเป็นรอบที่ 2 ทั้งที่เพิ่งกลับเข้าบ้านได้เพียง 3 วัน
วันนี้ (19 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้ปรับการระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 2,673 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.สรรพยา น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.โพนางดำออก ต.หาดอาษา ต.ตลุก เป็นรอบที่ 2 ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนต้องยกของขึ้นที่สูง และนำรถยนต์ รถการเกษตรหนีน้ำขึ้นไปไว้ริมถนนคลองมหาราช พร้อมกับเร่งสร้างเพิงพักอาศัยกันใหม่อีกรอบ ทั้งที่เพิ่งรื้อเพิงพักเก่าออกไป แล้วกลับเข้าไปนอนในบ้านได้เพียง 3 วัน หลังจากน้ำลดรอบที่แล้ว แต่น้ำกลับมาท่วมซ้ำใหม่อีกรอบโดยไม่ทันตั้งตัว
นายอำนาจ สว่างแก้ว ชาวบ้าน ต.หาดอาษา บอกว่า หลังจากน้ำท่วมครั้งก่อนลดลง ตนจึงรื้อเพิงพักอาศัยที่ทำไว้ริมถนนคลองมหราช แล้วขนข้าวของ รถยนต์ รถการเกษตร กลับเข้าไปในบ้านได้ 3 วัน น้ำกลับมาท่วมใหม่ ไม่รู้ว่าชลประทานจะระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอีกรอบ เพราะไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ที่น้ำลดลงไปแล้วแต่กลับขึ้นมาท่วมใหม่ในช่วงไม่ถึง 1 สัปดาห์ และท่วมเร็วกว่าเดิม ไม่ถึงชั่วโมงน้ำท่วมสูงถึงเข่าแล้ว จึงต้องขนของหนีน้ำ กลับไปอาศัยอยู่ริมถนนตามเดิม
เช่นเดียวกับ นางวรรณา อยู่ชู ชาวบ้าน ต.ตลุก บอกว่า หลังน้ำท่วมครั้งก่อนลดลงแล้ว นำข้าวของที่ยกขึ้นไว้บนที่สูงลงมา แต่พอน้ำกลับมาท่วมใหม่ต้องยกข้าวของขึ้นที่สูงกันอีกรอบ แล้วออกไปช่วยคนในหมู่บ้านทำกระสอบทรายกั้นน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำหลากเข้าท่วมในหมู่บ้านมากเหมือนครั้งก่อน และหากน้ำท่วมครั้งนี้ลดลงจะดูให้แน่ใจก่อนว่าน้ำจะไม่กลับมาท่วมแล้วอีก จึงค่อยนำข้าวของลงจากที่สูง เพราะเข็ดแล้วที่ต้องขนของขึ้นๆ ลงๆอยู่แบบนี้
ด้านนายมณฑล ตั้งทวี นายกเทศมนตรีตำบลตลุก ได้นำชาวบ้านช่วยกันกรอกกระสอบทราย เร่งทำคันกั้นน้ำบริเวณ ม.4 ต.ตลุก ซึ่งเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของตำบล เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมหมู่บ้านชั้นในที่มีกว่า 200 หลังคาเรือน และไม่ให้น้ำไหลเข้าไปซ้ำเติมบ้านเรือนประชาชน ที่ตอนนี้ยังมีน้ำท่วมขังจากน้ำท่วมครั้งก่อนอยู่