ชัยนาท - เขื่อนเจ้าพระยาเตือนพื้นที่เหนือเขื่อน-ท้ายเขื่อน เตรียมรับสถานการณ์น้ำสูงขึ้น 40-80 เซนติเมตร พื้นที่ลุ่มต่ำเตรียมยกของขึ้นที่สูง หลังฝนที่ตกหนักในพื้นที่ จ.ตาก และ จ.กำแพงเพชร ทำให้มีน้ำไหลลงแม่น้ำปิง ส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น
วันนี้ (18 ต.ค.) ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ จ.ตาก และ จ.กำแพงเพชร ทำให้มีน้ำไหลลงแม่น้ำปิง ส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยสำนักงานชลประทานที่ 12 คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ จะสูงถึง 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ต้องขยับการรักษาระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาสูงขึ้นจากเดิม และระบายน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น
ซึ่งโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเจ้าพระยา สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้แจ้งเตือนประชาชนผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564 ระบุว่า เขื่อนเจ้าพระยาแจ้งเตือนระดับน้ำ จังหวัดชัยนาท เหนือเขื่อนน้ำจะสูงขึ้น 10-20 เซนติเมตร ท้ายเขื่อนน้ำจะสูงขึ้น 40-80 เซนติเมตร จังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา น้ำจะสูงขึ้น พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่เสี่ยงให้ระมัดระวังและยกของขึ้นที่สูง
สำหรับสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้ แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 2,484 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (เพิ่มขึ้น 118 ลบ.ม./วินาที) แม่น้ำสะแกกรัง ไหลผ่าน จ.อุทัยธานี มีปริมาณ 262 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณ 2,894 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (เพิ่มขึ้น 35 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้น 5 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 17.15 เมตร(รทก) น้ำระบายท้ายเขื่อน 2,545 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 15.64 เมตร(รทก)
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.สรรพยา อ.เมืองชัยนาท อ.วัดสิงห์ อ.มโนรมย์ ยังมีบางจุดน้ำล้นตลิ่ง และมีน้ำท่วมขัง บ้านเรือนประชาชนกว่า 1,000 ครัวเรือน ยังคงได้รับความเดือดร้อน และหากเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึง 2,700 ลบ.ม./วินาที เหมือนกับครั้งก่อนจะทำให้พื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมครั้งก่อนกลับมาท่วมซ้ำใหม่ทั้งหมด
