อุทัยธานี - พื้นที่ใต้เขื่อนทับเสลา อุทัยธานี เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน..หลังอิทธิพลพายุไลออนร็อก-คมปาซุทำฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำทะลักเข้าอ่างเกิน 100% จนล้นสปิลเวย์ ต้องเปิดประตูระบายน้ำออกเต็มพิกัด
วันนี้ (17 ต.ค. 64) เขื่อนทับเสลา ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้เปิดประตูระบายน้ำของเขื่อนขึ้นทั้ง 3 บาน หลังจากมีปริมาณน้ำกักเก็บภายในอ่างมากเกินกำหนดจนน้ำล้นสปิลเวย์
การระบายน้ำของเขื่อนทับเสลาในครั้งนี้สร้างความกังวลให้แก่ประชาชนที่อยู่ด้านล่างเขื่อน โดยเฉพาะพื้นที่ริมคลองรับส่งน้ำ ตั้งแต่ อ.ลานสัก ยาวไปจนถึง อ.หนองฉาง ที่มีความเสี่ยงสูงมากว่าจะเกิดปัญหาน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรอย่างฉับพลัน
นายสงกรานต์ ชลอศรีทอง ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทับเสลา ได้ออกประกาศเรื่อง สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทับเสลา ระบุว่า เนื่องจากอิทธิพลของพายุไลออนร็อก และพายุคมปาซุ ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2564 ถึงปัจจุบัน มีปริมาณไหลเข้าอ่างเก็บน้ำทับเสลาไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศแจ้งเตือนจังหวัดอุทัยธานีว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากตั้งแต่วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 เวลา 18.00 น. ถึงวันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม 2564 เวลา 18.00 น.
และจนถึงเวลา 19.30 น. วันที่ 16 ต.ค. 64 อ่างเก็บน้ำทับเสลามีปริมาณน้ำ 165.74 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 103.58% มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ อัตราวันละ 11.05 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำผ่านอาคารช่องระบายน้ำในอัตราวันละ 2.51 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีปริมาณน้ำไหลล้นอาคารระบายน้ำฉุกเฉินวันละ 1.78 ล้านลูกบาศก์เมตร
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทับเสลาจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำผ่านอาคารช่องระบายน้ำลงลำน้ำ (River Outlet) จากเดิมวันละ 2.51 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็นวันละประมาณ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2564 เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป
เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของตัวอาคารเขื่อนทับเสลา และควบคุมไม่ให้เกิดปริมาณน้ำไหลล้นข้ามอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉิน (Emergency Spillway) ในปริมาณมากเกิน ซึ่งจะไม่สามารถควบคุมได้จนส่งผลเสียหายต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำเป็นวงกว้าง
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือ ป้องกัน และลดผลกระทบจากการระบายน้ำเพิ่มเติมดังกล่าว โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทับเสลาจึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแจ้งเตือนประชาชนด้านท้ายอ่างเก็บน้ำทับเสลาที่อยู่อาศัยหรือมีพื้นที่ทำการเกษตรในพื้นที่ริมฝั่งลำห้วยทับเสลาและลำห้วยสาขา ให้เตรียมขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังพร้อมติดตามข่าวสารของทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป