ตราด - ชลประทานตราด เตรียมระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง ซึ่งทำหน้าที่กักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร หลังปริมาณน้ำเกือบล้นสปิลเวย์ หวั่นหากมีฝนหนักช่วงปลายสัปดาห์อาจกระทบพื้นที่เกษตรและบ้านเรือนประชาชนใน อ.บ่อไร่
วันนี้ (5 ต.ค.) นายชัยกร ลุนทา หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ โครงการชลประทานตราด เผยว่าอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ที่ทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทำให้อ่างเก็บน้ำ 5 แห่งของจังหวัดมีปริมาณน้ำเต็มความจุอ่าง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำเขาระกำทั้งตอนล่างและตอนบน อ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ อ่างเก็บน้ำสะพานหิน และอ่างเก็บน้ำคลองโสน ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ รวมทั้งอ่างเก็บน้ำคลองห้วยแร้ง ต.ท่ากุ่ม อ.เมืองตราด ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำสำคัญที่เก็บน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำเต็มทั้ง 2 อ่าง ซึ่งในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีปริมาณล้นสปิลเวย์
ทำให้ชลประทาน จ.ตราด ต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อรองรับน้ำใหม่ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในปลายสัปดาห์นี้และกลางเดือน ต.ค.จะมีพายุเข้ามาในพื้นที่ภาคตะวันออกอีก 2 ลูกซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนัก
“ชลประทานตราด ต้องเร่งระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองโสน และอ่างเก็บน้ำคลองห้วยแร้ง ที่มีปริมาณน้ำเกือบล้นสปิลเวย์ ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.นี้เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดกับพื้นที่เกษตรและบ้านเรือนประชาชนในหลายตำบลของ อ.บ่อไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ” นายชัยกร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ยังได้เกิดฝนตกหนักนานกว่า 1 ชั่วโมงในเขตตัวเมืองตราด จนทำให้ถนนหน้าเมืองในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองตราด หน้าโรงแรมตราดเซ็นเตอร์ เกิดน้ำท่วมขังจากภาวะน้ำระบายไม่ทัน ส่งผลให้การจราจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ส่วนในพื้นที่ ม.2 บ้านหนองบัว ต.วังกระแจะ พบว่ามีน้ำท่วมสูงตั้งแต่หน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาตราด เรื่อยไปจนถึงร้านข้าวต้มเลือดหมู และหน้า หจก.อิซูซุตราดเซลล์ ช่วงขาออกถนนสุขุมวิท และขาเข้าบริเวณหน้าห้างโลตัสตราด และหน้าร้านสหกรณ์การเกษตร อ.เมืองตราด ตลอดระยะทางยาวกว่า 100 เมตร
เนื่องจากท่อระบายน้ำระบายไม่ทันจนทำให้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงตราด ต้องนำกรวยสีส้มมาตั้งเป็นจุดสังเกตเพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้เดินทางด้วยความระมัดระวัง