xs
xsm
sm
md
lg

“ท่าตะโก” จมบาดาล-ชุมชนย่านเศรษฐกิจน้ำทะลักมิดบ้านชั้นล่าง คาดท่วมยาวเป็นสัปดาห์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครสวรรค์ - มวลน้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์หลากล้นอ่างเก็บน้ำพื้นที่ไพศาลี ทะลักเข้า “ท่าตะโก” จมบาดาลแล้ว ชุมชนย่านการค้าถูกท่วมเกือบถึงชั้นสองของบ้าน ล่าสุดแม้ระดับน้ำทรงตัวและเริ่มลด แต่คาดเป็นสัปดาห์กว่าจะแห้ง


วันนี้ (28 ก.ย. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำป่าเทือกเขา จ.เพชรบูรณ์ และน้ำล้นสปิลเวย์อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ หลากเข้าท่วมบ้านเรือนมาตั้งแต่ 26 ก.ย.เป็นต้นมา ล่าสุดทางหลวงสายนครสวรรค์-ท่าตะโก ช่วงบริเวณสามแยก พื้นที่ ต.หัวถนน ถูกมวลน้ำหลากเข้าท่วมสูงกว่า 40 เซนติเมตร ยาวไปจนถึงเขตเศรษฐกิจเทศบาลตำบลท่าตะโกเป็นระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร จนรถเล็กไม่สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้ การเดินทางเข้าพื้นที่เศรษฐกิจต้องให้รถกระบะยกสูง รวมถึงรถบรรทุก และรถไถเท่านั้น

เมื่อเดินทางไปตรวจสอบเขตเศรษฐกิจเทศบาลตำบลท่าตะโกพบว่ามีน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 1-2.5 เมตร โดยเฉพาะในเขตตลาดย่านการค้าถูกน้ำท่วมสูงเกือบถึงชั้นสองของอาคารที่อยู่อาศัย ส่วนศูนย์ราชการ วัด และโรงพยาบาลต่างก็ถูกน้ำเข้าท่วมทั้งหมด

ขณะที่หน่วยทหารมณฑลทหารบกที่ 31 จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยมาร่วมกับกลุ่มจิตอาสาภัยพิบัติ และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นำเรือมาคอยให้บริการชาวท่าตะโก พร้อมกับนำอาหารน้ำดื่มไปแจกจ่ายผู้ประสบภัยที่ต้องอาศัยอยู่ภายในบ้านพัก เนื่องจากมีความเป็นห่วงทรัพย์สินมีค่าภายในบ้านเกรงว่าจะมีโจรขโมยออกมาอาละวาดซ้ำเติมความทุกข์ร้อน

ชาวบ้านในตลาดย่านการค้าท่าตะโกบอกว่า น้ำท่วมหนนี้หนักกว่าปี 54 และน้ำมาเร็วมาก แม้ทางเจ้าหน้าที่ส่วนราชการจะมีการประกาศแจ้งเตือนก่อนหน้าแล้ว แต่หลังประกาศผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงน้ำก็ทะลักเข้ามาถึงพื้นที่เศรษฐกิจแล้ว จนทำให้บ้านบางหลังขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นไปไว้ที่สูงไม่ทันต้องปล่อยให้จมน้ำเสียหาย ส่วนที่ต้องทนอยู่อาศัยภายในบ้านทั้งที่น้ำท่วมสูงเกือบมิดชั้น 1 นั้นเป็นเพราะห่วงข้าวของภายในบ้าน กลัวว่าหากย้ายไปอยู่ที่อื่นจะถูกโจรเข้ามาขโมย จึงขอยอมอยู่เฝ้าบ้านดีกว่า


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับตลาดย่านการค้าของเขตเทศบาลตำบลท่าตะโกส่วนใหญ่เป็นบ้านลักษณะตึกแถว สลับกับบ้านเดี่ยว บ้านไม้เก่าอีกหลายรูปแบบปลูกสร้างติดๆ กันนับร้อยหลังคาเรือน และขณะนี้พบว่ามีประชาชนขออยู่เฝ้าบ้านมากกว่า 70 คน

ส่วนความเดือดร้อนเฉพาะหน้าตอนนี้ นอกจากจะต้องการอาหารและน้ำดื่มแล้ว หลายบ้านยังมีความต้องการเพาเวอร์แบงก์เพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากมีความต้องการติดต่อญาติพี่น้องที่อยู่ในพื้นที่อื่น แต่แบตฯ โทรศัพท์มือถือหมด และไฟฟ้าถูกตัดชาร์จโทรศัพท์ไม่ได้ แต่ในส่วนอื่นๆ อย่างเช่นห้องน้ำนั้น ยังสามารถใช้บนชั้นสองของบ้านได้

ขณะที่สถานการณ์น้ำในวันนี้ (28 ก.ย.) พบว่าปริมาณน้ำเริ่มทรงตัว และเริ่มลดลงเล็กน้อย ปริมาณน้ำในพื้นที่ อ.ไพศาลีที่ไหลหลากลงมาท่าตะโกเริ่มลดลงแล้วด้วยเช่นกัน หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมน่าจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติได้อย่างช้าสุดภายใน 1 สัปดาห์










กำลังโหลดความคิดเห็น