อุทัยธานี - ผู้เป็นแม่เปิดใจ..ต้นเหตุพา “น้องจุก-หนูน้อยชาวอุทัยฯ วัย 4 ขวบ” ซ้อนท้าย จยย.หนีออกจากบ้านตาเดินทางข้ามจังหวัด 8 วัน ก่อนชาวสุพรรณฯ เจอนั่งในศาลาริมทาง แจ้ง ตร.ประสานหน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือ
วันนี้ (27 ก.ย. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น้องจุก หนูน้อยวัย 4 ขวบ ถูกแม่แท้ๆ ที่มีอาการป่วยทางจิตเวช พาขี่รถจักรยานยนต์หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา จนทางผู้เป็นตาที่เลี้ยงน้องจุกมาตั้งแต่แรกเกิดนั้นกังวลว่าแม่ของน้องจุกจะนำตัวลูกชายไปขายเหมือนกับลูกสาวคนแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อน
ล่าสุดหลังเจ้าหน้าที่ระดมแกะรอยค้นหา-ชาวบ้านในพื้นที่ช่วยแจ้งเบาะแสตลอด 8 วัน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยคต เมื่อวานที่ผ่านมา ว่าชาวบ้านพบหญิงสาวและเด็กนั่งอยู่ในศาลาเทศบาลตำบลสองพี่น้อง คาดว่าเป็นแม่ลูกที่หายตัวไปตามที่เป็นข่าวมาหลายวัน เมื่อให้สายตรวจในพื้นที่ออกไปตรวจสอบก็พบหญิงสาวและเด็กตามที่ประชาชนแจ้งเข้ามาจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สองพี่น้องสอบถามจนได้ความว่า ผู้เป็นแม่ได้พาน้องจุกขึ้นรถยนต์โดยสารจากสถานีขนส่งจังหวัดนครสวรรค์ในเที่ยวเช้า บอกว่าจะมาหาสามีเก่าที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งหลังจากที่นำอาหารและขนมให้สองแม่ลูกรับประทาน พร้อมตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยคต พร้อมด้วยนายบุญเลียน ตาของน้องจุุก ได้เข้ามารับตัวทั้งคู่กลับมายังพื้นที่แล้ว แต่ผู้เป็นแม่ยังไม่ยอมให้น้องจุกกลับไปอยู่กับตา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยคตจึงได้ดูแลทั้งคู่ไว้ก่อน เพื่อรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย และเยียวยาสภาพจิตใจทั้ง 2 คน
กระทั่งเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและศูนย์คุ้มครองจังหวัดอุทัยธานี และนักจิตวิทยา เข้าร่วมพูดคุยกับตาบุญเลียน พร้อมนางวาสนาและน้องจุก เพื่อหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าว
นายบุญเลียนกล่าวว่า ดีใจมากที่ได้พบหน้าหลานแล้ว ซึ่งตอนที่พบน้องจุกตอนแรกเห็นท่าทางอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่ตอนนี้ร่าเริงดีขึ้นแล้ว และยังอยากนำตัวหลานกลับไปเลี้ยงดูเหมือนเดิม ไม่เคยคิดโกรธเคืองลูกสาวที่ทำแบบนี้ อย่างไรเขาก็คือลูกของเรา และนางวาสนาขาดยาทางจิตเวชมานานกว่า 3 ปีแล้วด้วย จึงอยากพาตัวลูกสาวกลับไปรักษาและให้กินยาต่อเนื่อง
ขณะที่นางวาสนา ผู้เป็นแม่ของน้องจุก เล่าว่า สาเหตุที่พาน้องจุกลูกชายหนีออกมาจากบ้านพ่อ เพราะที่ผ่านมาคนในบ้านพ่อ ซึ่งมีทั้งภรรยาและลูกใหม่ของพ่ออยู่ด้วยกัน มักมีปัญหากับตนและน้องจุก โดยเฉพาะน้องจุกถูกตีบ่อยครั้ง จนมาครั้งสุดท้ายที่ตนเห็นลูกของภรรยาใหม่ของพ่อตีน้องจุกที่หน้าห้องน้ำ จึงวิ่งไปขวางและถกเถียงกัน สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจึงตัดสินใจพาลูกหนีออกมา
“เขาดูถูกเราเกินไป ทำร้ายจิตใจเรา มาทำกับลูกเราให้เห็นแบบนี้ไม่คิดว่าสภาพจิตใจเราจะเป็นอย่างไรเลยหรือ” นางวาสนากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ทั้งนี้ นางวาสนายังคงมีอาการพูดจาวกไปวนมา พูดคุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างในบางครั้ง โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงความเห็นในเบื้องต้นว่าจะนำตัวไปรักษาอาการป่วย ส่วนน้องจุกเนื่องจากยังมีคนในครอบครัวคือนายบุญเลียน ซึ่งเป็นตาที่เคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่แรกเกิด ประกอบกับผู้เป็นแม่ไม่มีอาชีพหรือที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และยังมีอาการป่วยทางจิตเวชที่ต้องทำการรักษา จึงลงความเห็นว่าในระหว่างนี้จะส่งตัวน้องจุกกลับไปอยู่กับผู้เป็นตาตามเดิมก่อน