นครสวรรค์ - ผู้คนแห่เข้าชมพร้อมถ่ายภาพน้ำปิง-น้ำน่านขึ้นสูงเอ่อลอดใต้อาคาร “พาสาน-สถาปัตยกรรมสัญลักษณ์ต้นเจ้าพระยา” ขณะที่นครสวรรค์หนีไม่พ้น โดนน้ำท่วมหลายพื้นที่ ล่าสุดน้ำป่าซัดคอสะพานแม่เปินพังต้องซ่อมกันวุ่น
วันนี้ (25 ก.ย. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการเผยแพร่ภาพน้ำปิงที่ไหลมาจากจังหวัดกำแพงเพชร และแม่น้ำน่านจากจังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร เอ่อล้นลอดใต้อาคาร “พาสาน” ที่ตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำเจ้าพระยา อ.เมืองนครสวรรค์ ผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้มีประชาชนที่ทราบข่าวทยอยเดินทางเข้าไปดูระดับน้ำและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกตั้งแต่ที่มีการก่อสร้าง “พาสาน” มาหลายปี ที่ระดับน้ำจะเพิ่มสูงมากขนาดนี้
สำหรับ “พาสาน” สัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกออกแบบและก่อสร้างขึ้นให้สามารถคงอยู่ในสภาวะที่จะมีน้ำขึ้นสูงในช่วงฤดูน้ำหลากไว้ตั้งแต่ต้น ลักษณะอาคารยกโค้งพ้นน้ำ ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือลอดส่วนโค้งชมความงามของสถาปัตยกรรมแห่งนี้ได้
“พาสาน” มีที่มาจากคำว่า “ผสาน” คือการรวมกัน แต่ “พาสาน” คือการพาคนเข้าไปสานให้เกิดการผสมผสานกันระหว่าง คน สถานที่ และสภาพแวดล้อม ตัวอาคารสร้างบนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ออกแบบให้มีความโค้งแล้วมาบรรจบกันที่ปลาย เหมือนการรวมตัวกันของแม่น้ำหลักจาก 4 สาย มาประสานกันเป็นสองสายและรวมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งในช่วงฤดูน้ำหลากส่วนของอาคารที่ยกโค้งจะโผล่พ้นน้ำ นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือลอดอาคารชมความงามของสถาปัตยกรรมได้
นอกจาก พาสาน จะเป็นจุดชมวิวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแล้ว ยังมีสำนักงาน ห้องจัดนิทรรศการประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี การท่องเที่ยว ลานประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม รวมไปถึงกิจกรรมแสง สี เสียงแสดงถึงวิถีชีวิตผู้คนกับสายน้ำตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นครสวรรค์ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ ล่าสุดชาวบ้านหมู่ 1 และ 13 บ้านคลองเจริญ ต.แม่เปิน อ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์ แจ้งว่าหลังจากในพื้นที่ได้มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาลงมากัดเซาะคอสะพานช่วงหลักกิโลเมตรที่ 33 บ้านคลองเจริญ ได้รับความเสียหายเกิดเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ ทำให้รถยนต์ไม่สามารถขับผ่านไปได้ ต้องขับรถอ้อมทางไกลหลายกิโลเมตร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เร่งซ่อมแซม นำดินพร้อมหินมาบดอัดเชื่อมคอสะพานและถนนที่ยังแข็งแรง เพื่อให้รถยนต์ขนาดเล็กสามารถผ่านได้เป็นการชั่วคราว พร้อมประสานหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบเข้าซ่อมแซมให้กลับมาใช้ได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเนื่องจากในพื้นที่ขณะนี้ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง