กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (23 ก.ย.64) ว่า ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.แพร่ 128 มิลลิเมตร ขอนแก่น 78 มิลลิเมตร กาญจนบุรี 99 มิลลิเมตร สุพรรณ 113 มิลลิเมตร ระยอง 54 มิลลิเมตร และระนอง 76 มิลลิเมตร โดยแม่น้ำสายหลักทั่วประเทศน้ำน้อยถึงมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ภาพรวมปริมาณน้ำทั้งประเทศ 48,569 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 59 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 42,800 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 60
ส่วนจุดเฝ้าระวังน้ำน้อยยังคงอยู่ในพื้นที่ 4 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก 7 แห่ง บริเวณเขื่อนนฤบดินทรจินดา เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนแม่มอก เขื่อนลำตะคอง เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนแก่งกระจาน และเขื่อนมูลบน พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากมีน้ำล้นอาคารระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำ คือ เขื่อนลำปะทาว มีปริมาณน้ำล้นอาคารระบายน้ำ ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำสองฝั่งลำน้ำลำปะทาวและลำน้ำชีตอนบนในพื้นที่ อ.เนินสง่า อ.คอนสวรรค์ และ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ เขื่อนห้วยกุ่ม พร่องน้ำเตรียมรองรับฝนตกช่วงนี้ อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ด้านท้ายน้ำริมลำน้ำพรม ต.กุดเลาะ ต.บ้านยาง ต.บ้านเป้า และ ต.บ้านหัน อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ จึงขอให้หน่วยงานติดตามสถานการณ์น้ำ ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำ เตรียมเครื่องจักร-เครื่องมือ และพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่
สำหรับสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำมีแนวโน้มสูงขึ้น และเสี่ยงน้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำน่าน อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร แม่น้ำยม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แม่น้ำเจ้าพระยา อ.บางบาล อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ลำน้ำพอง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น แม่น้ำปราจีนบุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และแม่น้ำพระปรง อ.เมือง จ.สระแก้ว
นอกจากนี้ กอนช. ยังได้ประเมินสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาช่วงวันที่ 22–26 กันยายน พบมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุดบริเวณสถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 28 กันยายน และปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 29 กันยายน ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายเขื่อนบริเวณ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 1 เมตร ช่วงวันที่ 29 กันยายน - 2 ตุลาคม เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและขอให้หน่วยงานติดตามสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่จุดเสี่ยงและพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และผู้ประกอบกิจการบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล พร้อมปรับแผนบริหารจัดการเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำเพื่อพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ แล้วเร่งระบายน้ำในลำน้ำและแม่น้ำรองรับน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน