นครพนม - บรรยากาศฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ จ.นครพนมคึกคักแต่เช้า เปิด Walk-In เพิ่มเติมให้แก่ผู้ไม่ได้รับนัดหมายตามปกติเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” พระบรมราชชนก เนื่องในวันมหิดล ตั้งเป้าฉีดวัคซีนเฉพาะ 2 วันนี้ให้ได้ 12,179 โดส
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่บริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 แห่งที่จังหวัดนครพนมจัดให้เป็นสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 แก่ประชาชน บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของผู้ที่มาเข้ารับบริการ
เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการ Walk-In เข้ารับวัคซีนที่เปิดให้บริการเพิ่มเติมจากผู้ที่ได้รับการนัดหมายตามปกติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” เนื่องในวันมหิดล ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคต
อีกทั้งยังเป็นการน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ พระมหากรุณาธิคุณ และสืบสานพระราชปณิธานแห่งสมเด็จพระบรมราชชนกที่ทรงดำเนินพระราชจริยาวัตรอันงดงาม ในฐานะแพทย์ที่มีน้ำพระทัยเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ทรงอุทิศพระวรกาย พระสติปัญญา และพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ในการวางรากฐานระบบการศึกษาที่เป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์ การสาธารณสุข การพยาบาล กองทัพเรือ การประมง การสังคมสงเคราะห์ และการศึกษาวิทยาศาสตร์ระดับอุดมศึกษาของประเทศให้เจริญรุ่งเรืองตามมาตรฐานสากลตราบจนทุกวันนี้
กิจกรรมในครั้งนี้ จังหวัดนครพนมตั้งเป้าหมายการฉีดวัคซีนไว้ 2 วัน ให้ได้ 12,179 โดส กระจายอยู่ในอำเภอเมือง 2,000 โดส อำเภอปลาปาก 800 โดส อำเภอท่าอุเทน 800 โดส อำเภอบ้านแพง 835 โดส อำเภอนาทม 350 โดส อำเภอเรณูนคร 1,008 โดส อำเภอนาแก 1,187 โดส อำเภอศรีสงคราม 1,086 โดส อำเภอนาหว้า 1,034 โดส อำเภอโพนสวรรค์ 1,385 โดส อำเภอธาตุพนม 1,217 โดส และอำเภอวังยาง 477 โดส เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน
โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 ที่ประกอบไปด้วย กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน
รวมทั้งกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปที่ปัจจุบันมีการฉีดไปแล้วร้อยละ 47.13 ของประชากรกลุ่มดังกล่าว โดยตั้งเป้าให้ได้ร้อยละ 50 ในวันนี้
สำหรับภาพรวมของการฉีดวัคซีนในปัจจุบัน จังหวัดมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ไปแล้ว 166,271 คน คิดเป็นร้อยละ 23.18 ของประชากรทั้งหมด แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 166,271 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 99,274 โดส และเข็มที่ 3 จำนวน 4,504 โดส แบ่งเป็น กลุ่ม 608 ที่มีการฉีดไปแล้ว 73,578 คน ส่วนกลุ่มประชาชน 18-59 ปี ฉีดไปแล้ว 68,998 คน กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าฉีดไปแล้ว 23,695 คน