เพชรบุรี - "ลุงตู่" พร้อมคณะ ลงพื้นที่เพชรบุรี ตรวจสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเพชร วางแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และหาแนวทางให้ความช่วยเหลือประชาชนชาว จ.เพชรบุรี ขณะที่ชาวเพชรบุรี รอให้กำลังใจ เพียบ
วันนี้( 22 ก.ย.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ตรวจสถานการณ์น้ำและการระบายน้ำที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) รวมถึงวางแผนแก้ไขน้ำท่วม และหาแนวทางให้ความช่วยเหลือประชาชนชาว จ.เพชรบุรี โดยมี นายสาธิต อุ๋ยตระกูล นายสุชาติ อุสาหะ นายกฤษณ์ แก้วอยู่ 3 สส.พรรคพลังประชารัฐจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเพชรบุรีให้การต้อนรับจำนวนมาก
โดยพลเอกประยุทธ์เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ลงที่บริเวณ สนามกีฬา เทศบาลตำบลท่ายาง จากนั้น เดินทางมาที่ ตลาดเทศบาลตำบลท่ายาง พบเยี่ยมเยียนประชาชน แวะทักทายร้านค้า และเข้านมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บริเวณศาลเจ้าพ่อกวนอู โดยมีประชาชน และ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนผู้นำท้องถิ่น จำนวนมากรอให้กำลังใจ โดยใช้เวลา พบเยี่ยมเยียนประชาชนประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้น พลเอกประยุทธ์และคณะ เดินทางโดยรถยนต์มาที่บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี(เขื่อนเพชร) ตรวจสถานการณ์น้ำ แผนการระบายน้ำรวมถึงแผนแก้ไขน้ำท่วมและแนวทางให้ความช่วยเหลือประชาชน
จากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะจะเดินทางไปโรงแรมรีเจ้นท์ อำเภอชะอำ ประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยว (Factory Sandbox) โดยมี พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย
ทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
จากการประชุมวันนี้ได้รับฟังปัญหาหลายอย่าง จากการลงพื้นที่วันนี้พบว่า
การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อยู่ในเกณฑ์ที่ยังรับน้ำได้ การบริหารจัดการน้ำ
และต้องกักเก็บน้ำให้มากที่สุด รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของเส้นทางคมนาคมในพื้นที่จังหวัดเพชร
พร้อมทั้งเรื่องการเตรียมความพร้อมเปิดการท่องเที่ยวsandbox ต่อจากภูเก็ตsandbox และยังมีอีก 5
จังหวัดที่เตรียมจะเปิด แต่จำเป็นต้องมีมาตรการที่เหมาะสม ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆจะเปิดได้ทั้งหมด
จะต้องมีมาตรการมีbubblez สถานประกอบการต้องพร้อม นี้คือสิ่งที่กังวลถ้าพื้นที่ท่องเที่ยวจะเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวจะต้องทำเป็นกิจกรรม
เปิดเป็นพื้นที่ๆ และต้องสกัดกั้นหยุดเชื้อข้างนอกเข้ามาสู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวถึงจะเปิดได้
โดยมอบนโยบายให้ทางกระทรวงสาธารณสุขไปประเมินสถานการณ์
ว่าพร้อมเปิดการท่องเที่ยวได้หรือไม่ ถ้ามีความพร้อมก็สามารถเปิดได้ทั้งหมด
แต่ถ้ายังไม่พร้อมก็ทยอยเปิดเป็นที่ๆไป ซึ่งเราจะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างไรอยู่ที่
ประชาชนต้องร่วมแรงร่วมใจ พร้อมทั้งร่วมกันเดินหน้าไปให้ เช่นการทำกิจกรรม
มีศักยภาพทำแล้วดี ไม่ว่าทางด้านสุขภาพ ด้านการท่อง
ซึ่งประเทศไทยมีชื่อเสียงอยู่แล้วด้านอาหารอร่อย วันนี้รัฐบาลต้องทำงานแบบพุ่งเป้า มองไปข้าง
ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน
ทำวันหน้าให้ดีกว่าวันนี้