พระนครศรีอยุธยา - ผู้ต้องหายิงเสี่ยรถบรรทุกเสียชีวิต ในพื้นที่จังหวัดอยุธยา ยังให้การภาคเสธ และไม่ขอทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ด้านเจ้าหน้าที่ปูพรมหาอาวุธปืนก่อเหตุ แต่ยังไม่พบ
จากกรณีช่วงเย็นวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีเหตุยิงกันจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย คือ นายเตย ทองขาว อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/53 หมู่ที่ 2 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาลราชธานี และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยผู้ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวได้ คือ นายคำรณ หรือใหญ่ มงคลเอี่ยม อายุ 54 ปี คนอำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 7.65 ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก
ส่วนสาเหตุเบื้องต้น เกิดจากปัญหาเรื่องการทวงเงิน จำนวน 1,000 บาทในการวิ่งดิน แต่นายเตย ไม่ยอมจ่าย เหตุเกิดบริเวณลานดิน จุดจอดรถบรรทุก 10 ล้อ หมู่ 4 ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าผู้ที่ก่อเหตุนั้น เป็น ส.ท.อยู่ในอำเภอบางซ้ายอีกด้วย
ล่าสุด วันนี้ (20 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางปะอิน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจหาอาวุธปืนของผู้ก่อเหตุที่ยังหาไม่พบ โดยมี ดาบจำรัส หอมยามเย็น อายุ 73 ปี พ่อตาของผู้เสียชีวิตมายังจุดเกิดเหตุ โดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ตายนั้นเป็นลูกเขยของตนเอง และมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยในจังหวัดชลบุรี และช่วงเช้าของเมื่อวาน ผู้ก่อเหตุเดินทางมาพบผู้ตายก่อนแล้ว ซึ่งผู้ตายบอกว่าให้เข้ามาเอาเงินตอนเย็น
จากนั้นผู้ตายได้ขับรถเก๋งไปส่งลูกสาวที่จังหวัดชลบุรี และเดินทางกลับมาบริเวณแคมป์คนงานตรงจุดเกิดเหตุ แต่ไม่ได้ขับรถเก๋งคันที่ไปส่งมา พอมาถึงแคมป์คนงานมีผู้ต้องหามาหาลูกเขยที่แคมป์คนงานเพื่อมาทวงเงินอีกครั้ง แต่ลูกเขยไม่มีเงินสดจึงบอกว่าเดี๋ยวค่อยเอา ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความไม่พอใจใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทันที ส่วนลูกเขยของตนนั้นไม่เคยรู้จักกับผู้ต้องหามาก่อน มีเพียงลูกน้องในแคมป์ที่รู้จักผู้ต้องหา
สาเหตุที่มาทวงเงินเพราะผู้ต้องหานั้นได้นำปูนที่ใช้แล้วมาทิ้งที่แคมป์คนงานและจะมาเก็บเงินกับลูกเขย ส่วนธุรกิจนั้นเป็นของตนเองแต่ได้ยกให้ลูกเขยเป็นผู้ดูแลนานแล้ว แต่ต้องมาจบชีวิต
ด้าน พ.ต.อ.สมเจตน์ แม้นบุตร ผกก.สภ.บางปะอิน เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ นายคำรณ หรือใหญ่ มงคลเอี่ยม ผู้ต้องหาตลอดทั้งคืน โดยผู้ต้องหาให้การภาคเสธ และไม่ขอใทำแผน ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยังไม่พบ และเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถให้การภาคเสธได้ แต่ตำรวจเชื่อมั่นว่ามีพยานหลักฐานสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้ และขอให้มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย
