อุบลราชธานี - ชาวบ้านพีมูฟจังหวัดอุบลราชธานียื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีคัดค้านนำกฎหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบังคับใช้จนกว่านำข้อเสนอของชาวบ้านบรรจุไว้ เพราะกฎหมายฉบับนี้เท่ากับไล่ชาวบ้านออกจากป่าในอนาคต
วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ป่าสงวนแห่งชาติที่เข้าร่วมกับเครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) นำโดยนางนิภาภรณ์ ปุลา ผู้ประสานงาน คปสม.อุบลราชธานี มาชุมนุมคัดค้านการนำกฎหมายพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในเร็วๆ นี้เพื่อนำมาบังคับใช้
โดยกลุ่มชาวบ้านระบุว่า พระราชบัญญัติฉบับใหม่นี้ขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ได้ร่วมกับพีมูฟจัดทำเวทีรับฟังความเห็นจากชุมชนต่างๆ ที่ต้องได้รับผลกระทบทั่วประเทศ แต่ปรากฏไม่มีการนำข้อเสนอของชาวบ้านบัญญัติไว้ในกฎหมาย แต่ใช้ร่างเดิมที่มีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเตรียมไว้แล้วมาบังคับใช้ ซึ่งจะส่งผลให้อนาคตชาวบ้านที่เคยอยู่ในอุทยานแห่งชาติ หรือป่าสงวนแห่งชาติ ต้องถูกบังคับให้ออกจากพื้นป่าที่ทำกินมาก่อน
จึงร่วมกันยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายวราวุธ ศิลปอาชา รมต.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้กลับมาทบทวนการนำพระราชบัญญัติดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไว้ก่อน จนกว่าจะได้ข้อยุติร่วมกันกับชาวบ้านพีมูฟ
นายชัยสุรีย์ ราชพลสิทธิ์ นิติกรชำนาญการพิเศษเป็นตัวแทนศูนย์ดำรงธรรม จ.อุบลราชธานี มาพบกับผู้ชุมนุมและรับหนังสือส่งต่อให้รัฐบาลรับทราบข้อเรียกร้องของชาวบ้าน โดยในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี เบื้องต้นมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและป่าสงวนแห่งชาติซึ่งต้องได้รับความเดือดร้อน หากมีการนำกฎหมายฉบับนี้ออกมาบังคับใช้จำนวนหลายร้อยครอบครัว เป็นเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่
