xs
xsm
sm
md
lg

ญาติเศร้า! เผาแยกสามศพพ่อแม่ลูกเหยื่อเก๋งหรูพุ่งชนดับยกครัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาฬสินธุ์ - ญาติเศร้าเผาศพหนุ่มวัย 25 ปี หลังเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งหรูชนกับจักรยานยนต์บนถนนเลี่ยงเมืองทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ ส่วนศพภรรยาและลูกสาววัย 8 เดือนญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ขณะที่ตำรวจยังไม่แจ้งข้อหาใคร ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำเจ้าของรถเก๋ง ยืนยันดำเนินการไปตามพยานหลักฐานและต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย


จากกรณีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ทะเบียน กข 5000 มหาสารคาม ชนกับรถจักรยานยนต์บนถนนเลี่ยงเมืองตัดใหม่ สายกาฬสินธุ์-มุกดาหาร บริเวณบ้านเหล่าค้อ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นพ่อ แม่ และลูกวัย 8 เดือน เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (12 ก.ย.) ที่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 5 บ้านแกเปะ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของนายวิจิตร วงค์ตาผา อายุ 46 ปี บิดานายพงษ์นเรศ วงค์ตาผา อายุ 25 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์คันประสบเหตุ มีญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต.เชียงเครือ และ อสม.ตั้งจุดคัดกรองโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายศพไปทำการฌาปนกิจตามประเพณี โดยการเผาบนเชิงตะกอนที่วัดประจำหมู่บ้านบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

ส่วนศพของ น.ส.ธิดารัตน์ วงจันทร์เรือง อายุ 19 ปี และลูกสาววัย 8 เดือน ภรรยา และลูกสาว ทางญาติได้นำไปประกอบพิธีที่บ้านเกิดใน ต.นาจำปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์


นายวิจิตร วงค์ตาผา อายุ 46 ปี บิดานายพงษ์นเรศ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากลูกชายพร้อมลูกสะใภ้คือ น.ส.ธิดารัตน์ และหลานสาวอายุ 8 เดือน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะขับขี่จักรยานยนต์จะเข้าหมู่บ้านบนถนนสายเลี่ยงเมือง ใกล้ทางแยกเข้าบ้านแกเปะ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 แต่ถูกรถเก๋งของคู่กรณีพุ่งชนเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุดังกล่าว ทางญาติผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันแยกศพไปประกอบพิธีทางศาสนา

โดยศพนายพงษ์นเรศตั้งสวดพระอภิธรรม 1 คืน ส่วนศพของ น.ส.ธิดารัตน์ และหลานสาววัย 8 เดือน ได้แยกไปประกอบพิธีที่บ้านเกิด ที่ ต.นาจำปา อ.ดอนจาน ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของลูกสะใภ้

นายวิจิตรบอกอีกว่า หลังเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ทางฝ่ายคู่กรณีที่เป็นคนขับรถเก๋งได้ส่งตัวแทนมาแสดงความเสียใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจัดงานศพเป็นการเบื้องต้นให้จำนวนหนึ่ง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จึงจะพุดคุยกันในลำดับต่อไปหลังจัดงานฌาปนกิจเสร็จเรียบร้อยก่อน คาดว่าคงจะไม่มีปัญหาใดๆ เพราะเห็นทางตัวแทนฝ่ายคู่กรณีก็เจรจากันด้วยดี


ด้านนายสมพร ภารสำราญ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านแกเปะ กล่าวว่า จุดที่เกิดอุบัติเหตุถือเป็นจุดเสี่ยงอันตรายเนื่องจากเป็นถนนเลี่ยงเมือง รถวิ่งระหว่างจังหวัดตลอดทั้งวัน ส่วนมากใช้ความเร็วสูง มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้รุนแรงที่สุด มีผู้เสียชีวิตพร้อมกัน 3 ศพ จึงอยากจะฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนที่ใช้เส้นทางนี้ โดยเฉพาะชาวบ้านที่ขับขี่ผ่านจุดยูเทิร์น หรือข้ามตามจุดต่างๆ ได้เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น และหลังจากนี้จะได้ปรึกษาคณะสงฆ์และชาวบ้านจัดตั้งศาลเพียงตาเป็นการขอขมาและบอกกล่าวเจ้าที่ เพื่อให้ความปลอดภัยแก่ผู้เดินทาง


ขณะที่ ร.ต.อ.ภาคภูมิ ภูสมนึก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาใครเนื่องจากยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งยังรอการสอบปากคำนายสุธี พิสิฐพยัต อายุ 66 ปี เจ้าของรถเก๋ง ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล คาดว่าจะนัดเข้ามาสอบปากคำในวันพรุ่งนี้ ส่วนญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายก็ยังอยู่ระหว่างการจัดงานศพ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีร่องรอยการเฉี่ยวชนที่เลนขวา สภาพรถทั้งสองคันพังเสียหาย โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบพยานแวดล้อมต่างๆ และผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียด ซึ่งจะต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐานและต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย


กำลังโหลดความคิดเห็น