เชียงใหม่ - คืบหน้าการตามหาตัว “น้องจีน่า” ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากทั้งพ่อและแม่ของเด็กหญิงแต่ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์แน่ชัด ขณะที่แม่เผยลูกชายอ้างเห็นน้องสาวนั่งรถไปกับ “ปู่จ้อ” ซึ่งน้องจีน่าเรียกอยู่แค่ 2 คน คือ พ่อ กับชายต้องสงสัย
ความคืบหน้ากรณี “น้องจีน่า” เด็กหญิงพรศิริ วงศ์ศิลารุ่ง อายุ 1 ขวบ 11 เดือน หายตัวออกไปจากบ้านพักในพื้นที่หมู่ที่ 19 บ้านห้วยฝักดาบ ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 5 ก.ย. 64 นั้น รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ช่วงค่ำวันนี้ (7 ก.ย.) เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ และอาสาสมัคร รวมทั้งชาวบ้านที่ระดมกำลังกันค้นหาตัวน้องจีน่าได้ยุติปฏิบัติการประจำวันนี้ลงแล้วหลังจากที่ปูพรมค้นหากันมาตลอดทั้งวันนับตั้งแต่ที่น้องหายตัวไป และจะกลับมาเริ่มปฏิบัติการค้นหาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้นอกจากการระดมกำลังค้นหาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานยังได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานต่างๆ ในหมู่บ้านด้วย โดยเฉพาะการตรวจสอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์หลายคัน พร้อมกันนี้มีการจัดทีมสหวิชาชีพเข้าทำการพูดคุยกับ “น้องจูเนียร์” อายุ 4 ขวบ พี่ชายของน้องจีน่าด้วย เพื่อประเมินและสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่อาจจะเป็นประโยชน์ในการติดตามหาตัวน้องจีน่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของ นายสุริยะ วงศ์ศิลารุ่ง อายุ 43 ปี และนางมาลี ปะสี อายุ 23 ปี พ่อและแม่ของน้องจีน่าด้วย แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเพื่อวัตถุประสงค์ใด
ขณะที่นางมาลี ปะสี อายุ 23 ปี แม่ของน้องจีน่า เปิดเผยช่วงค่ำวันนี้ว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนทำกับข้าวอยู่ในครัวเพียงไม่นาน เมื่อออกมาไม่พบน้องจีน่าจึงรีบออกตามหาบริเวณบ้านและโดยรอบ ทั้งถนนหมู่บ้าน, ไร่ข้าวโพด แต่ไม่พบตัว ซึ่งระหว่างนั้นพบเด็กอายุ 4-5 ขวบเล่นกันอยู่ข้างทางและได้สอบถามแล้วก็ไม่รู้เรื่องเช่นกัน จนกระทั่งพบกับพ่อของน้องจีน่าที่ขี่รถกลับมาจากการนำขยะไปทิ้ง โดยจากการพยายามสอบถาม “น้องจูเนียร์” พี่ชายของน้องจีน่า บอกว่าเห็นน้องซ้อนรถจักรยานยนต์ไปกับ “ปู่จ้อ” ที่ในภาษาไทยหมายถึงปู่ หรือชายสูงอายุที่นับถือ
ทั้งนี้ ปกติน้องจีน่าจะเรียกอยู่เพียง 2 คนเท่านั้น คือ พ่อของน้องจีน่า และชายต้องสงสัยที่ถูกเจ้าหน้าที่สอบปากคำและควบคุมตัวไว้ แต่เนื่องจากเป็นคำพูดของเด็กจึงยังไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้ว่าจริงหรือไม่ สำหรับตัวเองแล้วเวลานี้คิดถึงและเป็นห่วงลูกสาวมาก ซึ่งไม่รู้ว่าลูกสาวไปอยู่ที่ใด แต่ยังมีความหวังอยู่ตลอดว่าจะต้องได้พบกับลูกสาวในที่สุด และจะรอคอยการกลับมาของลูกอยู่เสมอไม่ว่าจะกลับมาในสภาพใดก็ตาม