ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โฆษกตำรวจภาค 3 แจงคลิปฉาว ตร.ชุดปราบยาเสพติด จ.ชัยภูมิบุกตรวจค้นบ้านจับพร้อมฉกเงินและทำร้ายผู้ต้องหา ยันไม่มีการลักทรัพย์เงินและทำร้ายผู้ต้องหาแต่อย่างใด ชี้ จนท.แสดงบัตรตาม กม.ก่อนตรวจค้นและถ่ายภาพทำบันทึกประกอบโดยละเอียดทุกขั้นตอน เงินที่ค้นพบได้ทำบันทึกถ่ายภาพไว้หมด โดยเจ้าของบ้านเฝ้ายืนดูตลอดและลงชื่อในบันทึกด้วย ส่วนเจ้าบ้านแจ้งดำเนินคดี ตร.จะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วันนี้ (6 ก.ย.) พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) และโฆษกตำรวจภูธรภาค 3 ได้เปิดเผยทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ตามที่มีข่าวทางสื่อมวลชนว่าตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ (ภ.จว.ชัยภูมิ) ขณะเข้าตรวจค้นจับกุมได้ลักทรัพย์เงินสดจากในบ้านที่ตรวจค้นและยังทำร้ายร่างกายบุตรชายของเจ้าบ้านได้รับบาดเจ็บนั้น
ทางตำรวจภูธรภาค 3 ขอชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 64 เวลาประมาณ 12.00 น. พ.ต.ท.ปัญญา พิสิฐปภา สว.สส.สภ.บ้านเขว้า ปฏิบัติหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดของ ภ.จว.ชัยภูมิ และเป็นเจ้าพนักงานของ ป.ป.ส. พร้อมกับพวกรวม 7 คน จับกุมนายเสรี ได้พร้อมยาบ้า 89 เม็ด ได้ที่ ต.โคกเริงรมย์ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ นายเสรีรับสารภาพว่าได้ซื้อยาบ้ามาจาก นายศิวพันธ์ หรือต๊ะ ภูมิอาจ พร้อมนำ พ.ต.ท.ปัญญา มาชี้บ้านพักของนายศิวพันธ์
พ.ต.ท.ปัญญา กับพวกจึงเข้าไปที่บ้านหลังที่นายเสรีนำชี้ เป็นบ้านเลขที่ 85 หมู่ 10 ต.บ้านชาน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ มี นายบุญยืน กลิ่นศรีสุข แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน โดยขณะนั้นมีนางสมคิด กลิ่นศรีสุข ภรรยายืนอยู่ด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวแสดงบัตร ป.ป.ส.ตามกฎหมายให้นายบุญยืน และนางสมคิดตรวจสอบแล้วก็เริ่มตรวจค้น
ขณะที่เข้าตรวจค้นในห้องพักบนชั้น 2 ของบ้าน พบนายเกียรติศักดิ์ หรือท็อป กลิ่นศรีสุข บุตรของ นายบุญยืน กำลังเสพยาบ้าอยู่พอดีจึงเข้าจับกุม แต่นายเกียรติศักดิ์ส่งเสียงเอะอะโวยวายขัดขืนต่อสู้ตำรวจที่เข้าจับกุม นายบุญยืนจึงพยายามเข้าไปช่วยและสอบถามตำรวจว่า “เข้ามาเนี่ย เอายาเสพติดมายัดด้วยหรือเปล่า” ส.ต.ท.ศิวนัฐ กลางซาติ ตำรวจในชุดที่เข้าตรวจค้นนั้นจึงควักเงินในกระเป๋าทั้งด้านข้างและหลังออกมาให้นายบุญยืนดู และบอกว่า “นี่เงินของผมนะ ไม่มียาบ้าอะไรทั้งนั้น” ซึ่งนายบุญยืนก็ดูแล้ว ส.ต.ท.ศิวนัฐจึงนำเอาเงินเก็บใส่กระเป๋ากางเกงเช่นเดิม
ต่อมาก็เข้าตรวจค้นห้องพักของนายศิวพันธ์ หรือต๊ะ พบเงินสดจำนวน 13,460 บาท ซึ่งขณะตรวจค้นก็มีนางสมคิด และนายลิขิต กลิ่นศรีสุข บุตรชายยืนเฝ้าดูการตรวจค้นของตำรวจโดยตลอด ส่วน ร.ต.อ.โชติพิพัฒน์ สิทธิวงศ์ ตรวจค้นพบอาวุธปืนแก๊ป และกระเป๋าเอกสาร จึงนำมาถือไว้
การตรวจค้นบ้านพักของนายบุญยืนและจับกุมตัวในครั้งนี้มีการถ่ายภาพและทำบันทึกประกอบโดยละเอียดทุกขั้นตอนปราศจากข้อสงสัย ไม่ว่าจะเป็นกรณีว่าตำรวจลักทรัพย์เงินขณะเข้าตรวจค้นหรือไม่ ยืนยันว่าไม่มีการลักทรัพย์เงินแต่อย่างใด เงินที่ตรวจค้นได้ตำรวจชุดตรวจค้นจับกุมได้ทำบันทึกและถ่ายภาพไว้ทั้งหมด โดยมีนายบุญยืน เจ้าบ้าน ภรรยา และบุตร เฝ้ายืนดูและลงชื่อในบันทึกไว้
สำหรับการทำร้ายร่างกายเกิดจากการกอดรัดต่อสู้กันระหว่างนายเกียรติศักดิ์ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะเข้าจับกุมตัว และต่อมาเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2564 นายบุญยืนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บำเหน็จณรงค์ กล่าวหา พ.ต.ท.ปัญญา กับพวก ในข้อหาทำร้ายร่างกาย, ลักทรัพย์ฯ, ทำให้เสียทรัพย์ ความผิดตาม ม.157 ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิได้ตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดเข้าเป็นพนักงานสอบสวนและยืนยันว่าจะให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ซึ่งจะมีกระบวนการยุติธรรมอื่นๆ เช่น พนักงานอัยการเข้าตรวจสอบอีกชั้นหนึ่งต่อไป
“ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของ ภ.จว.ชัยภูมิถูกกล่าวหาว่าลักทรัพย์เงินสดและทำร้ายร่างกายผู้อื่นขณะเข้าทำการตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา ถ้าจริงต้องดำเนินคดีต่อตำรวจชุดนี้ตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดรวดเร็ว ถ้าไม่จริงต้องให้กำลังใจตำรวจที่ทำงานให้เขาทำเพื่อประเทศชาติต่อไป” พล.ต.ต.ไพศาลระบุ