แม่สาย/ท่าขี้เหล็ก - ทางการไทยผลักดันเมียนมาลอบเข้าเมืองออกนอกราชอาณาจักรผ่านชายแดนแม่สายอีกกว่า 100 คน พร้อมขอรับตัวคนไทยกลับอีก 7 ราย ขณะที่ จนท.พม่าบุกจับผับกึ่งโอเกะลอบเปิดบริการกลางโควิดระบาดท่าขี้เหล็ก ตรวจเจอติดเชื้อนับสิบราย
วันนี้ (6 ก.ย. 64) ทหาร ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมืองมอบหมายให้หน่วยประสานงานชายแดนไทย-พม่า ประจำพื้นที่ 1 (TBC) ฝ่ายไทย ร่วมกับ ร้อย.ม.3 บก.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.3 และ ตม.เชียงราย ร่วมผลักดันคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา (ผู้ต้องกัก) ออกนอกราชอาณาจักร จำนวน 164 คน เป็นชาย 91 คน หญิง 70 คน เด็กชาย 2 คน และเด็กหญิง 1 คน
โดยประสานขอความร่วมมือกับคณะกรรมการชายแดนเมียนมา-ไทย (TBC) ฝ่ายเมียนมา รับตัวบุคคลดังกล่าวด้วยเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ บริเวณจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 บ้านสันผักฮี้ ต.แม่สาย อ.แม่สาย วันเดียวกันทางทีบีซีเมียนมาได้ประสานขอส่งคนไทยกลับประเทศ 7 รายผ่านทางช่องทางเดียวกันด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ผ่านมามีคนไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวลักลอบข้ามไปทำงานตามสถานบันเทิงในตัวเมืองท่าขี้เหล็กที่มีการเปิดอย่างคึกคักช่วงเดือน เม.ย. 2564 ต่อมามีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทางการเมียนมาสั่งปิดสถานบันเทิงยามค่ำคืน ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 06.00-18.000 น. และล็อกดาวน์ห้ามเดินทางข้ามหมู่บ้าน เพื่อป้องกันการระบาด
ซึ่งทำให้กลุ่มคนไทยแจ้งขอกลับประเทศผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง TBC และอาจารย์สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการสำนักวิชานวัตการสังคม มฟล.ในฐานะศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย จนได้รับการส่งตัวกลับมาแล้วหลายครั้ง เช่น วันที่ 3 ส.ค. จำนวน 19 ราย วันที่ 16 ส.ค. จำนวน 29 คน และยังมีรายย่อยอีกประปราย 1-2 ราย รวมทั้งได้จับกุมตัวคนลักลอบกลับมาเองรวมทั้งหมดไม่น้อยกว่า 50 คน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีคนไทยบางส่วนที่อยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก โดยนอกจากจะไปทำงานตามสถานบันเทิงที่มีการลักลอบเปิดแล้ว ยังพยายามจัดกิจกรรมหรืออีเวนต์ตามบ้านเรือนหรือสถานที่ของคนที่มีฐานะดีอีกด้วย ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ท่าขี้เหล็กได้นำกำลังบุกเข้าทลายสถานบันเทิงผับกึ่งคาราโอเกะกลางเมืองบริเวณบ้านสันทรายไต จ.ท่าขี้เหล็ก ใกล้เชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 ซึ่งเปิดให้นักเที่ยวเข้าใช้บริการ
โดยสามารถจับกุมคนเปิดสถานบันเทิงดังกล่าวและคนไปเที่ยวได้จำนวน 58 ราย และเมื่อนำมาตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 พบผลเป็นบวก 10 ราย ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าในกลุ่มผู้ถูกจับกุมมีคนไทยอยู่ด้วย แต่ยังไม่ทราบจำนวนและไม่มีรายงานว่าเป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยหรือไม่
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ใน จ.เชียงราย พบมีผู้ติดเชื้อยืนยันเพิ่มขึ้นจำนวน 21 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจำนวน 11 ราย มีผู้ที่ยังรักษาตัวอยู่จำนวน 464 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 30 ราย โดยกลุ่มหรือคลัสเตอร์ใหญ่ๆ ยังคงเกิดขึ้นที่ชายแดนด้าน อ.แม่สาย โดยมีผู้ป่วยยืนยันมากที่สุดถึง 16 ราย