สระแก้ว - คืบหน้า! เหตุตำรวจใช้รถหลวงขนบุหรี่เถื่อนบริเวณชายแดน จ.สระแก้ว จนเพจดังต้องนำเรื่องราวออกแฉในโลกออนไลน์ ล่าสุด ต้นสังกัดเซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
จากกรณีที่ “เพจบิ๊กเกรียน” ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่สรรพสามิต ได้จับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยงานชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ใช้รถหลวงขนบุหรี่หนีภาษี
พร้อมระบุว่า การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ปราบปราม กรมสรรพสามิต ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของ ด.ต.นายหนึ่งสังกัดตำรวจหน่วยงานประจำชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีพฤติกรรมขับรถกรงขังนำต่างด้าวข้ามไปส่งยังฝั่งกัมพูชา ด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และขากลับยังลักลอบขนของหนีภาษีเข้ามายังฝั่งไทย โดยพบว่าเป็นบุหรี่ต่างประเทศเลี่ยงภาษี
โดยเจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน จำนวน 300,000 บาท และยังตั้งคำถามถึง ผกก.หน่วยงานตำรวจดังกล่าวว่า ได้ทำเรื่องรายงานต่อ ผบ.ตร. ผบช. และ ผบก.ตามลำดับชั้นหรือไม่ และเหตุใดเรื่องกลับเงียบกริบ! พร้อมติดแฮชแท็ก #ใช้รถหลวงขนบุหรี่นั้น
ล่าสุด วันนี้ ( 5 ก.ย.) พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 ที่ 148/2564 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.2564 เป็นต้นไป
พร้อมระบุว่า เนื่องด้วย ดาบตำรวจวินัย สายทอง ผู้บังคับหมู่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน ตามคำสั่งกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 ที่ 147/2564 ลงวันที่ 4 ก.ย.2564
โดยในเรื่องที่ถูกกล่าวหาระบุว่า เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตต่อหน้าที่ โดยกระทำความผิดทางอาญากรณีลักลอบมีบุหรี่ไว้ในครอบครองที่มิได้เสียภาษี พร้อมรถยนต์ของทางราชการระหว่างการปฏิบัติราชการจากการส่งตัวผู้ต้องกักที่ฝั่งประเทศกัมพูชา จนถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่สระแก้ว สาขาอรัญประเทศ จับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหา "มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษี"
ทั้งนี้ ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่ง มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ได้ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 105 ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครอง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน