บุรีรัมย์ - สาธารณสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ร่วมหลายหน่วยงานเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมแนะนำขั้นตอนการยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาตามสิทธิแก่ครอบครัวลุงวัย 60 ที่เสียชีวิตปริศนาหลังฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก เผยฐานะยากจน ภรรยามีลูกน้อยอีก 2 คน ต้องมาสูญเสียเสาหลักของครอบครัว
วันนี้ (1 ก.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ นางไทร สาน และ น.ส.นิชานนท์ ศรีราพงษ์ ภรรยา และลูกสาวของนายชื่น ศรีราพงษ์ อายุ 60 ปี ชาวตำบลตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมหลังจากนายชื่นได้เสียชีวิตปริศนาเมื่อกลางดึกวันที่ 28 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา หลังจากไปฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรกเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2564 แล้วสภาพร่างกายก็เริ่มไม่ปกติมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก เหนื่อยหอบ อ่อนแรง ไปหาหมอแต่หมอกลับบอกว่าเป็นโรคกระเพาะจึงให้ยาแก้โรคกระเพาะมารับประทาน แต่อาการกลับทรุดลงเรื่อยๆ จนเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งภรรยาและลูกสาวยืนยันว่านายชื่น ผู้เสียชีวิตเป็นคนแข็งแรงสามารถทำงานหนักได้ ไม่เคยมีโรคประจำตัว แต่พอไปฉีดวัคซีนมาเพียง 3 วันกลายเป็นคนอ่อนแอ
ล่าสุดวันนี้ นายวิชัย เจริญสุข สาธารณสุขอำเภอเฉลิมพระเกียรติ พร้อมด้วย สิบเอก ยศนนท์ จอยเอกา นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการกลุ่มงานบริหารทั่วไป ตัวแทนของ ผอ.รพ.เฉลิมพระเกียรติ นายจอน ผ่องขำ กำนันตำบลตาเป๊ก, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ และคณะผู้บริหาร รพ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของครอบครัวนายชื่นที่เสียชีวิต เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ และสอบถามข้อมูลรายละเอียด ต่างๆ เนื่องจากทางครอบครัวติดใจในสาเหตุการตายของนายชื่น เชื่อว่าน่าจะเกิดจากผลพวงของการฉีดวัคซีน แต่แพทย์กลับลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตคือ “เลือดออกในกระเพาะอาหาร”
นายวิชัย เจริญสุข สาธารณสุขอำเภอเฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้นอกจากจะมาเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว ยังได้มีการพูดคุยสอบถามรายละเอียดกรณีที่ญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิตด้วย ทั้งนี้ยังได้ชี้แจงอธิบายระเบียบขั้นตอนกรณีที่ญาติสามารถยื่นร้องขอรับการเยียวยาตามสิทธิอีกด้วย ในส่วนของสาธารณสุขก็จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งจะเสนอเรื่องขอรับการเยียวยาตามกระบวนการขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่พบว่าฐานะครอบครัวของผู้เสียชีวิตค่อนข้างยากจน และภรรยามีลูกน้อยอีก 2 คน ในเบื้องต้นทางสาธารณสุข และโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติจะได้หาแนวทางช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นก่อน ส่วนการเยียวยาก็รอคณะกรรมการส่วนกลางเป็นผู้พิจารณาตามขั้นตอน
ด้าน นางไทร สาน ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่หน่วยงานราชการหลายภาคส่วนได้เข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจกับครอบครัว เพื่อให้ทราบถึงกฎระเบียบในการขอรับเงินเยียวยา เพราะสามีเป็นเสาหลักของครอบครัว ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ไม่ทอดทิ้งได้มาถามไถ่และหาแนวทางช่วยเหลือ