บุรีรัมย์ - ทนายความ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ร้องตรวจสอบ อบต.สร้างห้องน้ำชั่วคราวสถานที่กักตัวโควิดกว่า 1.5 แสนแพงเกินความเป็นจริง ชี้ประเมินตามสภาพโครงการไม่น่าเกิน 5 หมื่น ขณะ อบต.ชี้ทำตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างทุกขั้นตอนตามความจำเป็นเร่งด่วน สามารถตรวจสอบได้ ด้าน ป.ป.ช.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
วันนี้ (31 ส.ค.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร อายุ 38 ปี ทนายความ สำนักงานกฎหมายนิติศุภักษร และอดีตผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการใช้งบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดอนกอก ในการก่อสร้างห้องน้ำชั่วคราวสำหรับผู้กักตัวโควิด-19 บริเวณด้านหลังโรงเรียนวัดโพธิ์ชัย หมู่ 5 บ้านหัวฝาย ต.ดอนกอก อ.นาโพธิ์ ซึ่งเป็นสถานที่กักตัวกลุ่มเสี่ยงสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด
ทั้งนี้ เนื่องจากตั้งข้อสังเกตว่าการก่อสร้างห้องน้ำชั่วคราวดังกล่าวจำนวน 6 ห้อง ซึ่งใช้งบประมาณมากถึง 155,000 บาท เป็นราคาที่แพงเกินความเป็นจริง หากเทียบกับวัสดุที่ใช้เชื่อว่าไม่น่าจะเกิน 50,000 บาท เพราะมีเพียงโครงสร้างเหล็ก ส่วนหลังคาและฝาผนังก็ใช้สรรไททั้งหมด ไม่ได้ปูกระเบื้องหรือทาสีอะไรเลย จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเนื่องจากเป็นงบประมาณแผ่นดิน
นายภัทรพงศ์กล่าวอีกว่า การออกมาร้องเรียนครั้งนี้เพราะได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่าห้องน้ำชั่วคราวในสถานที่กักตัวกลุ่มเสี่ยงโควิดน่าจะใช้งบประมาณก่อสร้างสูงเกินความเป็นจริง ตนจึงเป็นตัวแทนออกมาร้องเรียนให้มีการตรวจสอบในฐานะประชาชนเท่านั้น ไม่ได้เป็นการจับผิดใคร โดยเฉพาะในช่วงภาวะวิกฤตแบบนี้ก็อยากให้ใช้งบประมาณที่เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด ส่วนจะมีหน่วยงานไหนเข้าตรวจสอบหรือไม่นั้นก็ว่ากันไปตามกระบวนการ
ด้าน นายบุรินทร์ บุญรับ ปลัด อบต.ดอนกอก ชี้แจงว่า กรณีที่ อบต.ได้ทำการก่อสร้างห้องน้ำชั่วคราวสืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งมีการระบาดที่กรุงเทพฯ และพื้นที่สีแดงหลายจังหวัด ผู้ที่ทำงานอยู่จังหวัดต่างๆ จึงได้เดินทางกลับมายังภูมิลำเนา ซึ่งตามมาตรการของจังหวัดผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ต้องกักตัว 14 วันเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ จึงทำให้สถานที่กักตัวของตำบลดอนกอกมียอดผู้เข้ากักตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม 10-20 คน เพิ่มเป็นวันละ 30-40 คน ซึ่งห้องน้ำของโรงเรียนที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวก็มีเพียง 4 ห้อง ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ที่เข้ากักตัว
แต่เนื่องจากห้องน้ำ อบต.ไม่ได้ตั้งไว้ในข้อบัญญัติงบประมาณปี 2564 แต่มีงบกลางหรืองบสำรองจ่ายในกรณีจำเป็นเร่งด่วน ดังนั้นทาง อบต.จึงได้ใช้งบกลางในการสร้างห้องน้ำชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาห้องน้ำไม่เพียงพอ ซึ่งได้ดำเนินการจัดซื้อจ้างจัด โดยหาผู้รับจ้างมาดำเนินการโดยใช้ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยพัสดุภาครัฐ ปี 2560 ซึ่งได้มีการยกเว้นระเบียบต่างๆ เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างมีความคล่องตัวและให้ทันต่อสถานการณ์ที่ประชาชนเดือดร้อน
จึงได้จัดหาผู้รับจ้างมาดำเนินการโดยให้ผู้รับจ้างออกแบบเองแล้วเสนองานมาโดยไม่มีการควบคุมงานออกแบบซึ่งเป็นวิธีพิเศษ ซึ่งก็มีผู้รับเหมาเสนองานในราคา 155,000 บาท โดยผู้รับเหมาให้เหตุผลว่าต้องทำงานด้วยความเสี่ยง หากเกิดติดเชื้อจะต้องเข้ารักษาตัวหรือกักตัวหลายวันจะเสียโอกาสขาดรายได้ ก็ยืนยันว่า อบต.ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน สามารถตรวจสอบได้
ขณะที่ล่าสุดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว ซึ่งเบื้องต้นจะต้องหาข้อมูลทั้งฝั่งผู้ร้องและผู้ถูกร้องอย่างละเอียด ว่ามีการดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน และใช้งบประมาณที่ถูกต้องหรือแพงเกินความเป็นจริงตามที่มีการร้องเรียนหรือไม่ ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย