เชียงใหม่ - ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่เผยความพร้อมโครงการ CHARMING Chiang Mai คืบหน้าแล้วกว่า 90% วาดฝันเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว 1 ต.ค. 64 รอลุ้น ศบค.พิจารณาไฟเขียวนำร่อง 4 อำเภอ
วันนี้ (31 ส.ค. 64) นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามโครงการ CHARMING Chiang Mai ว่า ขณะนี้แผนการเปิดเมืองเชียงใหม่เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินหน้าไปแล้วกว่า 90% คาดว่าจะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 ต.ค. 64 นี้
รูปแบบการเปิดรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่จะไม่เหมือนกับจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่มีช่องทางการเดินทางเข้าออกได้หลากหลายทางจึงจะต้องมีวิธีการบริหารจัดการที่แตกต่างกัน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้แบ่งโปรแกรมการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ 3 รูปแบบด้วยกัน
รูปแบบที่ 1 เป็นโปรแกรมระยะสั้น จำนวน 5 วัน ที่ให้นักท่องเที่ยวอยู่แต่ในพื้นที่ของโรงแรมและสนามกอลฟ์เท่านั้น รูปแบบที่ 2 โปรแกรมระยะกลาง 14 วัน ที่กำหนดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเดินทางไปได้อย่างจำกัดในช่วงระยะเวลา 14 วันแรกหลังจากเดินทางเข้ามาในพื้นที่
รูปแบบที่ 3 โปรแกรมต่อเนื่องจากจังหวัดภูเก็ตแล้ว 7 วัน และเดินทางมาต่อที่จังหวัดเชียงใหม่อีก 7 วัน ซึ่งนักท่องเที่ยวในรูปแบบที่ 2 และ 3 ต้องท่องเที่ยวและพักอาศัยได้เฉพาะสถานที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น และต้องทำการตรวจหาเชื้อตลอดช่วงเวลา 7 หรือ 14 วัน ในแต่ละรูปแบบ หากตรวจแล้วไม่พบเชื้อจึงจะให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ
สำหรับในระยะแรกจะกำหนดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวทั้ง 3 รูปแบบในพื้นที่นำร่อง 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริม และอำเภอดอยเต่า ซึ่งในระยะแรกมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวเป้าหมายจากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นคู่ค้าสำคัญกับจังหวัดเชียงใหม่เดิม จากนั้นจึงจะมีการขยายกลุ่มเป้าหมายต่อไปในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ประเทศจีน และอินเดีย ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการทั้งหมดจะต้องผ่านการประเมินความพร้อม ในการบริหารจัดการระบบจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้ และหากเมื่อถึงกำหนดเวลาแล้วพื้นที่ยังไม่พร้อมก็สามารถขยายเวลาออกไปได้ โดยถือความพร้อมของพื้นที่และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ