บุรีรัมย์ - ตัวแทนชาวบ้านเสริมสุข อ.เมืองบุรีรัมย์ ร้องหน่วยงานรัฐเร่งตรวจสอบเอาผิดคนจากนอกพื้นที่บุกรุกแผ้วถางตัดโค่นต้นไม้ใหญ่ป่าสาธารณะโคกทม หวังฮุบเป็นของตัวเองกว่า 400 ไร่ อีกฝ่ายโต้มี ส.ป.ก.4-01 ทำกินถูกต้อง ขณะ อบต.รุดตรวจสอบพบบางส่วนรุกป่าจริง เตรียมประสาน ส.ป.ก.ตรวจแนวเขต
วันนี้ (24 ส.ค.) ตัวแทนชาวบ้านบ้านเสริมสุข หมู่ 20 ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีราษฎรจากนอกพื้นที่ทั้งใน ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง และ ต.บ้านยาง อ.ลำปลายมาศ ลักลอบเข้าไปแผ้วถาง ตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ และใช้เครื่องจักรไถปรับพื้นที่บริเวณป่าสาธารณประโยชน์โคกทม บ้านเสริมสุข ต.สะแกโพรง เพื่อปลูกมันสำปะหลัง หวังถือครองเป็นของตัวเอง ทั้งที่ที่ป่าสาธารณะดังกล่าวชาวบ้านจะใช้ประโยชน์ร่วมกันในการนำวัว ควายมาปล่อยเลี้ยงตั้งแต่บรรพบุรุษ
แต่ถูกราษฎรจากนอกพื้นที่เข้ามาบุกรุกครอบครองทำกินอ้างสิทธิเป็นของตัวเองอย่างต่อเนื่องไปแล้วมากกว่า 400 ไร่จากเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 900 ไร่ ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปหลายหน่วยงานทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด อำเภอ สภาตำบล จนเวลาผ่านไปกว่า 10 ปีแล้วเรื่องยังเงียบ ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนทำให้มีผู้เข้ามาบุกรุกแผ้วถาง ตัดโค่นต้นไม้เข้าไปทำกินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่เกรงกลัวความผิด ซึ่งหากปล่อยไว้แบบนี้ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบและดำเนินการเชื่อว่าอีกไม่นานก็คงไม่หลงเหลือสภาพป่า
นายสวง วงสุวรรณ์ ตัวแทนชาวบ้านเสริมสุข บอกว่า เดิมป่าสาธารณประโยชน์โคกทมดังกล่าวมีสภาพอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านจะนำวัว ควายมาผูกเลี้ยงในป่าโดยเฉพาะช่วงทำนาจะไม่มีนำสัตว์ไปเลี้ยง แต่พอมีชาวบ้านจากนอกพื้นที่ลักลอบเข้ามาแผ้วถางป่า ตัดโค่นต้นไม้ใหญ่ ปรับพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังแสดงความเป็นเจ้าของ ชาวบ้านในพื้นที่นำวัว ควายมาเลี้ยงก็ถูกขับไล่ ที่ผ่านมาทั้งผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่เคยทำเรื่องร้องเรียนไปหลายหน่วยงานให้เข้ามาตรวจสอบและยับยั้งการบุกรุกป่าดังกล่าวจนจะถูกบุกรุกจนหมดแต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบเอาผิดอย่างจริงจัง แค่มาดูแล้วก็หายเงียบไป เชื่อว่าหากปล่อยไว้แบบนี้อีกไม่นานก็คงจะถูกบุกรุกครอบครองจนหมด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการเอาผิดผู้บุกรุกด้วย เพื่อที่ผืนป่าดังกล่าวจะได้กลับมาเป็นของส่วนรวมอีกครั้ง
ด้าน นางสุกานดา ราษฎรจาก ต.บ้านยาง อ.ลำปายมาศ ที่ทำกินอยู่ในพื้นที่ที่ถูกร้องเรียน ยืนยันว่า ตนและชาวบ้านอีกประมาณ 9 รายได้รับการจัดสรรที่ทำกินจากรัฐ โดยมีการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ให้ทำกินอย่างถูกต้องมาตั้งแต่ปี 2555 ไม่ได้เข้ามาบุกรุกตามที่ชาวบ้านร้องเรียน พร้อมให้มีการตรวจสอบตามกระบวนการขั้นตอน
ขณะที่เจ้าหน้าที่จาก อบต.สะแกโพรง ซึ่งได้รับมอบหมายจากทางอำเภอให้เข้ามาตรวจสอบกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่ามีพื้นที่บางส่วนที่มีการบุกรุกป่าสาธารณประโยชน์จริง แต่ส่วนที่ชาวบ้านอ้างว่ามีเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ให้ทำกินอย่างถูกต้องนั้น จะได้ประสาน ส.ป.ก.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบรังวัดแนวเขตให้ชัดเจนอีกครั้งเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ส่วนที่ลงมาตรวจสอบในวันนี้จะรายงานผู้บังคับบัญชา และทางอำเภอรับทราบตามขั้นตอน