ระยอง - เกิดเหตุคนร้ายเป็นหญิงชิงทองหนัก 5 บาท จากร้านทองในเขตเทศบาล ต.เมืองแกลง จ.ระยอง ก่อนซิ่งเก๋งหลบหนีกระทั่งเกิดอุบัติระหว่างทางแต่ยังไม่หยุดชิง จยย.ชาวบ้านหนีอีก ตรวจค้นในรถพบทั้งทองปลอมและสำเนาบัตรประชาชน ตร.เชื่อตามตัวได้เร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (19 ส.ค.) ได้เกิดเหตุคนร้ายชิงทองจากร้านทองพลอยไพลิน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลเมืองแกลง ถนนสุนทรโวหาร ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ประติพัตน์ ภูมิลี ผกก.สภ.แกลง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ
พบที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา ซึ่งเปิดเป็นร้านขายทอง โดยมีนางอัญชลี กรรมารวนิช อายุ 53 ปี เจ้าของร้านที่ยังคงอยู่ในความตื่นตระหนกพร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นหญิงซึ่งสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีครีม และได้เดินเข้ามาในร้านเพียงคนเดียว
โดยได้ทำทีมาขอดูสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น และน้ำหนัก 3 บาท อีก 1 เส้นก่อนจะวิ่งหนีออกจากร้านอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองได้ส่งเสียงร้องเรียกสามีที่อยู่ด้านหลังร้าน แต่คนร้ายได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาวหลบหนีไปทางถนนสายวังหว้า-แหลมแม่พิมพ์ อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุได้ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุซึ่งเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว หมายทะเบียน กร 8990 ระยอง ซึ่งด้านหลังไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ประสบอุบัติเหตุพุ่งชนกระถางต้นไม้ริมถนนสภาพพังยับเยิน
ส่วนคนร้ายได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนีไปและยังได้ขโมยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ หมายทะเบียน 245 ระยอง ของชาวบ้านที่จอดลงมาดูเหตุการณ์ขี่หลบหนีเข้าตัวเมืองแกลง
จากการตรวจค้นภายในรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนชื่อ น.ส.สวรส เสียงประเสริฐ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นชาว จ.ระยอง และยังพบแผ่นป้ายทะเบียน กธ 4649 ระยอง และเสื้อยืดสีดำที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งบัตรพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งและสร้อยทองปลอมอีกจำนวน 2 เส้น
ส่วนสร้อยข้อมือทองคำที่คนร้ายชิงไปจากร้านทองพลอยไพลิน ยังไม่พบแต่อย่างใด
จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า หลังเกิดเหตุรถยนต์พุ่งชนกระถางต้นไม้ริมทางได้เห็นหญิงซึ่งเป็นคนขับสภาพสวมเสื้อสีครีม กางกางขายาวสีครีม ยืนโบกรถเพื่อขอความช่วยเหลือโดยไม่
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบหญิงที่ก่อเหตุเดินทางมาคนเดียว ซึ่งหลังก่อเหตุได้เปลี่ยนเสื้อจากสีดำเป็นสีครีม ส่วนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนที่พบในรถคาดว่าจะเป็นของคนร้าย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบที่อยู่แล้ว และจะเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว