กรุงเทพฯ/ภาคเหนือ - ตำรวจ บช.ปส.ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ป.ป.ส. ทหาร ศุลกากร เปิดปฏิบัติการสยบไพรี 64/13 “DID ATTACK 4” แกะรอยรวบ 11 ผู้ต้องหาคนพะเยา กำแพงเพชร นครสวรรค์ ราชบุรี กทม. ขนไอซ์ 200 กิโลฯ ล่องกรุง ตามอายัดเรียบทั้งบ้าน ที่ดิน รถ
ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พร้อมด้วย กอ.รมน. ศรภ. กองบัญชาการกองทัพไทย ป.ป.ส. พร้อมด้วยตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรภาค 6 ศุลกากรภาค 3 เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรแม่สอด จ.ตาก ได้แถลงข่าวปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงผลการติดตามจับกุม-ยึดอายัดทรัพย์สินทั้งที่ดินสิ่งปลูกสร้าง/รถยนต์ ขบวนการค้ายาเสพติด ตามแผนยุทธการสยบไพรี 64/13 “DID ATTACK 4”
ปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นหลังกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้ดำเนินการสืบสวนติดตามกลุ่มนักค้ายาเสพติด ซึ่งมีพฤติการณ์ในการรับจ้างขนส่งลำเลียงยาเสพติดให้กลุ่มผู้ค้ายาชาวไทยที่หนีคดีไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนประเทศเมียรมา ด้านจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากนอกประเทศผ่านพื้นที่ตามแนวชายแดน เพื่อนำไปกระจายส่งจำหน่ายลูกค้าของผู้ว่าจ้างในพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร หรือปริมณฑล ก่อนลำเลียงไปยังจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่เป็นประจำ
กลุ่มนักค้ายาเสพติดกลุ่มนี้จะใช้วิธีการเช่าบ้านหรือโกดังในแถบชายแดนภาคเหนือในการพักคอยและซุกซ่อนยาเสพติด รวมไปถึงมีวิธีการในการลักลอบขนส่ง/ลำเลียงยาเสพติดทางรถยนต์ส่วนบุคคลครั้งละจำนวนหลายคัน โดยมีวิธีการซุกซ่อนลำเลียงยาเสพติดในลักษณะแบ่งยาเสพติดซุกซ่อนไว้ที่วางยางอะไหล่บริเวณท้ายรถยนต์หรือช่องด้านหลังของเบาะรถจำนวนหลายคันเพื่อไม่ให้รถมีน้ำหนักมากเกินไป อีกทั้งยังใช้วิธีการสลับกันขับขี่นำทางและสลับตำแหน่งกันไม่ให้เป็นที่สังเกตของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้เส้นทางถนนสายรองเพื่อเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อีกทั้งเครือข่ายนี้ยังดำเนินการในรูปแบบของการเปิดบริษัท หรือร้านค้า เพื่ออำพรางปิดบังทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทำให้เกิดความซับซ้อนในการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้การดำเนินการปราบปรามยาเสพติดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด บช.ปส.จึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรณีพิเศษ กำหนดแผน ยุทธการสยบไพรี 64/13 “DID ATTACK 4” ขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคลที่ขนลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือไปจำหน่ายให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางและปริมณฑล โดยใช้เส้นทางถนนสาย จ.เชียงราย-จ.เชียงใหม่-จ.ลำพูน-จ.ลำปาง-จ.สุโขทัย-จ.พิษณุโลก-จ.นครสวรรค์-จ.ชัยนาท-จ.พระนครศรีอยุธยา
กระทั่ง 11 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 17.00-18.30 น. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหากลุ่มแรก 6 ราย ได้ที่บริเวณถนนหมายเลข 106 (เถิน-ลี้) หลัก กม.ที่ 20 ต.นาโป่ง อ.เถิน จ.ลำปาง พร้อมของกลางไอซ์ น้ำหนักประมาณ 120 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในช่องเก็บของท้ายรถยนต์ของกลาง และจับกุมผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่บริเวณสถานีบริการน้ำมันเชลล์ ต.ล้อมแรด อ.เถิน พร้อมของกลางไอซ์อีกประมาณ 40 กิโลกรัม ซึ่งซุกซ่อนอยู่แทนที่ที่เก็บยางอะไหล่ท้ายรถยนต์ของกลางคันหนึ่ง
นอกจากนี้ยังติดตามจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายอีกรายได้ที่บริเวณริมถนนหมายเลข 106 (เถิน-ลี้) ประมาณ กม.10 ต.นาโป่ง อ.เถิน จ.ลำปาง พร้อมของกลางไอซ์ น้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัม ซึ่งซุกซ่อนอยู่แทนที่ที่เก็บยางอะไหล่ท้ายรถยนต์ของกลาง
นอกจากนี้ สามารถขยายผลจับกุมกลุ่มคนที่ร่วมเครือข่ายอีก 3 รายได้ที่บริเวณลานจอดรถห้างเทสโก้ โลตัส สาขาบางปะอิน ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2564 เวลาประมาณ 07.30 น.
รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 11 ราย ประกอบด้วย 1 .นายปราโมทย์ มีศิลป์ อายุ 49 ปี ชาว ต.เทพนิมิต อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร 2. น.ส.สุภาวดี พัวสวัสดิ์ อายุ 27 ปี ชาว ต.ขุนพิทักษ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี 3. นายธนาคาร หมื่นจำรัส อายุ 28 ปี ชาว ต.เทพนิมิต อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร 4. น.ส.นฤมล สักลอ อายุ 29 ปี ชาว ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา
5. นายอารีย์ เพ็งนนสิน อายุ 53 ปี ชาว ต.ลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ 6. น.ส.กันญา สังขิน อายุ 47 ปี ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ 7. นายนิกูล พรมเข็ม อายุ 35 ปี ชาว ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ 8. น.ส.อรพิน ดอนนุยไพร อายุ 25 ปี ชาว ต.ป่าพุทรา อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร 9. นายวีรพล ช่วยงาน อายุ 20 ปี มีภูมิลำเนาอยู่แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10. นายธนพล ชัยมณฑล อายุ 38 ปี อยู่แขวงทุงครุ เขตทุ่งครุกรุงเทพมหานคร และ 11. นายกิตตินัฏ เกิดกัน อายุ 28 ปี อยู่แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร
พร้อมของกลาง 9 รายการ เป็นไอซ์รวม 200 ห่อ น้ำหนักรวม 200 กิโลกรัม รถยนต์นั่งที่ใช้ในการลำเลียง/รับส่งยาเสพติด โทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง
ขณะนี้นอกจากเจ้าหน้าที่จะตรวจยึดของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายแล้ว ยังตรวจยึดอายัดกลุ่มผู้ต้องหา เป็นโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เลขที่ 7946 จำนวน 21 ไร่ 3 งาน จำนวน 1 ฉบับ โฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เลขที่ 44478 จำนวน 2 ไร่ 06 ตร.ว. จำนวน 1 ฉบับ โฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เลขที่ 44479 จำนวน 2 ไร่ 65 ตร.ว. จำนวน 1 ฉบับ รถยนต์อีก 11 คัน
