นครปฐม - "บิณฑ์-เอกพันธ์" พร้อมทีมร่วมกตัญญูเข้าช่วยศูนย์มุฑิตา จ.นครปฐม พบผู้สูงอายุพร้อมพี่เลี้ยงภายในศูนย์ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 20 กว่าราย ล่าสุด ดับแล้ว 6 ราย หวั่นเสียชีวิตอีก วอนผู้ว่าฯ และทีมบุคลากรทางการแพทย์เข้าช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วานนี้ (13 ส.ค.) ภายในศูนย์มุฑิตาเนอสซิ่งโฮม ตั้งอยู่เลขที่ 17 ซ.6 ถ.อุดรวิถี ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นายบิณฑ์ และนายเอกพันธ์ บัณลือฤทธิ์ คู่แฝดดาราชื่อดัง ได้นำทีมส่งต่อลมหายใจ มูลนิธิร่วมกตัญญูกว่า 10 ชีวิต เข้าให้การช่วยเหลือผู้สูงอายุ และเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งมีจำนวน 20 กว่าชีวิต โดยพบว่าได้เกิดคลัสเตอร์ภายในสถานที่ดังกล่าว เพราะทุกคนเป็นผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 และยังนอนพักรักษาตัวอยู่ภายใน โดยได้มีการส่งผู้ชำนาญการสวมชุด PPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ยา และอุปกรณ์เครื่องออกซิเจนเข้าไปเพื่อสอบถามและดูอาการผู้ป่วยทั้งหมด โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบสงบ
ในการเข้าให้การช่วยเหลือดังกล่าวเป็นไปอย่างเงียบๆ ซึ่งภายนอกเป็นเวลาใกล้ที่จะถึงเวลาเคอร์ฟิว ห้ามไม่ให้ประชาชนออกไปภายนอกบ้าน มีเพียงรถพยาบาลจากหน่วยงานต่างๆ ขับผ่านไปมา ซึ่งทีมงานที่ได้ให้การช่วยเหลือนำโดยบิณฑ์ และเอกพันธ์ ได้มีการส่งข้อความผ่านวิทยุสื่อสารเพื่อรายงานสถานการณ์และบรรยากาศในการให้การช่วยเหลือผู้สูงอายุ และพี่เลี้ยง โดยนำเครื่องออกซิเจนเข้าไปติดตั้งเพิ่มเติม รวมถึงมีการนำเครื่องมือในการตรวจวัดค่าออกซิเจนให้ผู้ป่วยทุกคน และมีการเตรียมรถพยาบาล เพื่อเตรียมความพร้อมหากพบผู้ที่มีอาการวิกฤตเพื่อส่งไปรักษาตัวยังสถานที่ในกรุงเทพมหานครต่อไป โดยใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง สามารถทยอยนำผู้ป่วยออกมาจากสถานที่ดังกล่าว
นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เผยว่า การเข้ามาให้การช่วยเหลือผู้ป่วยครั้งนี้เพราะนายเอกพันธ์ ได้รับการประสานมาจาก "คุณสาย" ซึ่งเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากสถานที่ศูนย์มุฑิตาเนอสซิ่งโฮม มีผู้สูงอายุและพี่เลี้ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนถึง 20 กว่าคน โดยตัวคุณสาย ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีการติดเชื้อเช่นกัน ซึ่งคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 5-6 คนก่อนหน้านี้ จึงเดินทางมาพร้อมกับนางปิยลักษณ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าชุดของทีม "ร่วมกตัญญู ส่งต่อลมหายใจ" เพื่อผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล จึงรีบเดินทางเข้ามาดูตามที่ร้องขอทันที ซึ่งด้วยความเป็นห่วงของ ดร.รัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้สั่งการให้มาดูเคสนี้อย่างเร่งด่วนถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
นางปิยลักษณ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าชุดของทีม "ร่วมกตัญญู ส่งต่อลมหายใจ" เพื่อผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล กล่าวว่า วันนี้พบว่าภายในศูนย์ผู้สูงอายุและพี่เลี้ยงนั้นยังมีอาการทรงตัว แต่ได้มีการวางระบบในการจัดการให้ใช้ระบบที่เราได้วางไว้ให้ก่อนและได้นำถังอออกซิเจนมาติดตั้งเพิ่มเติมให้จำนวน 5 ถัง รองรับสถานการณ์หากมีความจำเป็นเร่งด่วนจะมีการดำเนินการเข้ามาให้การช่วยเหลือทันที ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ในสถานรับดูแลผู้สูงวัยจากที่เคยเข้าให้การช่วยเหลือจะพบว่า ผู้สูงวัยที่ติดเตียงเกิดปัญหาจากการที่มีการคนเข้าไปเยี่ยม หรือพี่เลี้ยงที่รับเชื้อและกลับเข้าไปดูแลผู้สูงอายุภายใน ส่วนใหญ่จะเกิดการติดเชื้อภายในที่รวดเร็วเพราะอยู่กันอย่างแออัด ซึ่งสถานที่แห่งนี้ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ไม่มีใครรู้ว่าภายในเกิดอะไรขึ้น
การให้ข้อมูลในครั้งนี้ตัวคุณสาย ผู้ดูแลสถานที่แห่งนี้ได้รับเชื้อ และมีอาการหนักเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ โรงพยาบาลนครปฐม ได้มารับตัวผู้ป่วยไปแล้วส่วนหนึ่ง โดยคาดว่าผู้ติดเชื้อที่นี่น่าจะมีถึง 30 กว่าคน และที่น่าสลดคือหลายรายได้กลับมานอนรักษาตัวที่ศูนย์มุฑิตาเนอสซิ่งโฮม เนื่องจากทางโรงพยาบาลนครปฐม ได้แจ้งมาว่าเตียงเต็มและไม่เพียงพอที่จะรับผู้ป่วยไว้ได้ จึงให้กลับมานอนพักรักษาตัวที่ศูนย์กระทั่งผู้ป่วยทยอยเสียชีวิตไปแล้วถึง 6 คน โดยก่อนที่จะมีการแจ้งขอความช่วยเหลือดังกล่าว
ขณะที่ข่าวดังกล่าวได้แพร่สะพัดออกไป ทำให้ประชาชนในจังหวัดนครปฐม ถึงกับตกใจและสลดใจกับสิ่งที่ได้ทราบ เนื่องจากไม่เคยมีข้อมูลเรื่องดังกล่าวปรากฏให้ได้ยินมาก่อน และหลายคนเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้เข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงานของทีมบุคลากรทางการแพทย์โดยเร่งด่วน และมีหลายกระแสที่ไม่พอใจการทำงานของนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์กับตัวเลขผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครปฐมได้ในขณะนี้ โดยบางรายได้มีการโพสต์ลงโซเชียลในหลายประเด็นที่เกิดขึ้น รวมถึงประเด็นการเปิดรับการฉีดวัคซีนในพื้นที่ซึ่งถือว่ายังน้อยมากในตอนนี้
