xs
xsm
sm
md
lg

สลด! ลุงวัย 59 ปี เครียดป่วยติดโควิด-19 กระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระนครศรีอยุธยา - สลด! ลุงวัย 59 ปี เครียดป่วยติดโควิด-19 รักษาตัวที่ รพ.นาน 11 วัน จนสามารถกลับบ้านได้ รพ.โทร.ให้ญาติมารับกลับบ้านสุดท้ายหนีกระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตาย

เวลา 16.30 น.วันนี้ (11 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุชายกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เหตุเกิดบริเวณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ที่ 4 ตำบลประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา จัดชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยอยุธยา เร่งตรวจสอบและค้นหาร่างภายในแม่น้ำเจ้าพระยา

ในที่เกิดเหตุพบญาติของผู้เสียชีวิตยืนร้องไห้ด้วยอาการโศกเศร้า เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจชุดประดาน้ำ เตรียมตัวและวางแผนเพื่องมค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนาย ฉลวย รื่นภาคกลิ่น อายุ 59 อยู่บ้านเลขที่ 206/1หมู่ 1 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ห่างไม่ไกล ริมฝั่งประมาณ 2 เมตร ใส่เสื้อลายสกอตสีนำเงิน กางเขาสั้น นอนคว่ำหน้าจมอยู่ในน้ำ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้นำร่างขึ้นมา พร้อมทั้งใส่ชุด PPE เพื่อป้องกัน จากนั้นนำร่างผู้ตายขึ้นมาจากน้ำนำร่างใส่ถุงซิปแน่นหนาก่อนใส่โลงศพที่เตรียมไว้และนำไปฌาปนกิจทันที

จากการสอบถามนางบุปผา บูรณะกิจจานนท์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านโรตีสายไหม เรือนไทยสายไหม ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามหน้าโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เมื่อช่วงก่อนเกิดเหตุได้พบกับผู้ตายเดินออกมาจากโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา แล้วมานอนอยู่ตรงหน้าร้าน ตนจึงสอบถามว่ามานอนทำไม แต่ลุงไม่ตอบ จังหวะนั้นมีรถยนต์เก๋งสีขาวมาจอดซื้อโรตีพอดีผู้ตายจึงเปิดประตูขึ้นรถ แต่เจ้าของรถได้บอกว่าไม่ใช่รถลุง จึงเดินลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบริเวณลานรับจอดรถ ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา

จากนั้นผู้ตายไปนอนอยู่ตรงขอบกำแพงปูน ซึ่งมีความสูงจากพื้นดินประมาณ 3 เมตร สักพักก็ร่วงตกลงไปข้างล่าง ตนเองจึงเดินมาดูและมายืนพูดคุยกับผู้ตายอยู่บริเวณริมแม่น้ำเพื่อสอบถาม แต่ลุงเหมือนมีอาการเบลอยา ตอบไม่รู้เรื่องเพียงพูดว่าอยากตาย จากนั้นเดินลงไปยืนอยู่ในแม่น้ำแล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าหยิบขึ้นไว้กับมือ แล้วค่อยเดินลงไปในน้ำ จากนั้นก็จมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่มีใครกล้าลงไปช่วยเหลือเพราะกลัวว่าจะติดโรคโควิด-19

ด้าน น.ส.พรรณรัตน์ อยู่บุญ อายุ 48 ปี หลานสะใภ้ผู้ตาย กล่าวว่า ตนเองมารับผู้ตายที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงบ่ายเพราะผู้ตายป่วยเป็นโควิด-19 และมารักษาตัวได้ 11 วันแล้ว และวันนี้ทางโรงพยาบาลให้ออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปกักตัวอยู่ที่บ้าน ตอนนั้นตนเองกำลังรอรับยาอยู่ โดยผู้ตายนั่งอยู่ตรงเก้าอี้หน้าห้องยา จากนั้นก็หายไป ตนพยายามตามหาแต่ไม่พบ และมาพบอีกทีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยแจ้งว่ามีชายกำลังกระโดดน้ำจึงรีบมาดูแต่ไม่ทัน

ทางด้าน น.ส.พรรณทิพย์ รักอารมณ์ เป็นหลานผู้ตาย กล่าวว่า ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าลุงจะทำเช่นนี้ ส่วนภรรยาของลุงก็ติดโรคโควิด-19 และเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โดยทั้ง 2 คนมีอาชีพขายของทะเลอยู่ภายในตลาดเจ้าพรหม ส่วนผู้ตายนั้นเป็นโรคเครียดขี้น้อยใจภรรยา แล้วก็มาติดโรคโควิด-19

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ทราบว่าเหตุผลใดทางโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ถึงให้ผู้ตายกลับบ้าน เพราะเมื่อ 2 วันที่แล้วยังโทร.มาบอกว่าผู้ตายต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และมีอาการ 50% ให้ทำใจ แต่พอมาวันนี้โทร.ไปแจ้งให้ญาติให้มารับลุง กลับบ้าน เพราะทางโรงพยาบาลต้องใช้เตียง เนื่องจากมีผู้ป่วยหนักมากกว่า แต่ตนเองเข้าใจว่าลุงของตนเองนั้นอาการดีขึ้นแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมโรงพยาบาลถึงไม่มีรถไปส่ง ถ้าไปส่งอาจจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้








กำลังโหลดความคิดเห็น