xs
xsm
sm
md
lg

สุดลำเค็ญ 2 ตายายเมืองศรีราชากินข้าวต้มผสมน้ำตาลประทังชีวิต หลังร้านตัดผมถูกปิดจากพิษโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา - สุดลำเค็ญ 2 ตายายเมืองศรีราชา กินข้าวต้มผสมน้ำตาลประทังชีวิตหลังขาดรายได้จากคำสั่งปิดร้านตัดผมเหตุเชื้อโควิด-19 ระบาดหนัก โชคดีได้ชาวบ้าน ผู้ใจบุญช่วยแบ่งอาหาร ขณะ ส.ส.เขตศรีราชา ยื่นมือช่วย

จากกรณีที่มีผู้ใจบุญได้เผยแพร่เรื่องราวของ 2 ตายายใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจากวิกฤตโควิด-19 จนต้องกินข้าวต้มผสมน้ำตาลทรายประทังชีวิตให้อยู่รอด หลังต้องขาดรายได้จากคำสั่งของ ศบค.ชลบุรี ที่กำหนดให้ภาคบริการหลายประเภท รวมถึงร้านตัดผมต้องหยุดลงเป็นการชั่วคราวเพื่อลดการรวมตัวของคนหมู่มาก

หวังลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ ซึ่งวันนี้ จ.ชลบุรี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยต่อวันไม่น้อยกว่า 1,000 คน และ อ.ศรีราชา เป็น 1 ใน 3 อำเภอใหญ่ของจังหวัดที่มียอดผู้ติดเชื้อเฉลี่ยต่อวันเกือบ 300 คนนั้น


วันนี้ (9 ส.ค.) นายขวัญเลิศ พานิชมาท สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต 5 อ.ศรีราชา ได้นำทีมเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังร้านตัดผมชายแห่งหนึ่งซึ่งมีลักษณะเป็นห้องเช่า บนถนนภายในซอยวัดจีน ตัดออกถนนสายหนองยายบู่ ม.7 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา เพื่อให้การช่วยเหลือ คุณตาประเสริฐ เมืองราช อายุ 80 ปี และนางสุทัศน์ ใจคำ อายุ 62 ปี

สองสามีภรรยาซึ่งยึดอาชีพเปิดร้านตัดผมชายภายในห้องขนาด 4 คูณ 4 เมตร ที่ได้แบ่งครึ่งหนึ่งของห้องเช่าเปิดเป็นร้านตัดผมชาย ส่วนอีกครึ่งเป็นที่อยู่อาศัยโดยมีเพียงห้องน้ำและห้องครัวเล็กๆ ไว้สำหรับประกอบอาหารเท่านั้น

โดย คุณตาประเสริฐ บอกว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุดทำให้ตนเองต้องขาดรายได้อย่างหนักจนไม่มีเงินหาซื้ออาหารเพื่อรับประทาน และต้องเลือกวิธีต้มข้าวคลุกน้ำตาลทรายกินเพื่อประทังชีวิต เพราะไม่เงินซื้ออาหารมารับประทาน

และเมื่อรู้ว่ามีคนใจบุญนำเรื่องราวของตนเองและภรรยาไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ รู้สึกขอบคุณ และยังบอกอีกว่าผลจากการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคร้ายทำให้ตนเองต้องจำใจปิดร้านแม้จะไม่มีรายได้มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องก็ตาม เพราะกลัวว่าหากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ร้านอาจถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมได้และหากต้องเสียค่าปรับก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่าย สุดท้ายต้องติดคุก


พร้อมยังบอกอีกว่า นับตั้งแต่ปิดบริการร้านตัดผมชายทำให้เงินเก็บที่สะสมไว้ซึ่งมีเพียงเล็กน้อยเริ่มหมดไป สุดท้ายจึงทำได้เพียงซื้อข้าวสารมาต้มน้ำตาลกินเพื่อให้พอมีรสชาติและได้คลายความหิว ซึ่งที่ผ่านมาตนเองและภรรยาทำเช่นนี้มาแล้ว 3 วันแล้ว

“ในช่วงวันแรกเมื่อกินเข้าไปท้องเสียจนต้องหยุดกินและเปลี่ยนมาต้มข้าวผสมเกลือแทนกระทั่งมีคนทราบเรื่องช่วยนำอาหารมาให้ ส่วนเจ้าของห้องเช่าไม่เก็บค่าห้องและบางครั้งยังแบ่งอาหารมาให้กินบ้าง”

และสิ่งที่ คุณตาประเสริฐ อยากวอนขอต่อรัฐบาลคือการจ่ายเงินเยียวยาเหมือนครั้งการแพร่ระบาดที่ผ่านมา ซึ่งผู้ได้รับความเดือดร้อนจะได้รับเงินเยียวยาคนละ 5,000 บาท เพื่อให้ได้มีเงินไว้ใช้จ่ายซื้อกับข้าวกินในแต่ละวัน

ขณะที่ นายขวัญเลิศ ได้นำถุงยังชีพที่บรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค ที่มีทั้งข้าวสารและอาหารแห้ง รวมถึงของใช้จำเป็นบางส่วนมามอบให้ พร้อมให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อเพื่อที่จะได้นำข้าวสารและอาหารแห้งมาเติมให้ในครั้งต่อไป รวมถึงให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ






กำลังโหลดความคิดเห็น