ผวา "หมีหมา" บุกหากินในสวนชาวบ้านเมืองปราจีนฯ หลังทิ้งรอยเท้า-รอยเล็บเพียบ

ปราจีนบุรี - ผวา! ชาวบ้านเมืองปราจีนฯ พบรอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่ภายในสวน ส่วนต้นไม้ยังมีรอยเล็บอีกเพียบ คาดเป็น “หมีหมา” แต่ยังไม่ฟันธงหลังลักษณะบ่งชี้ไม่ชัด เบื้องต้น จนท.กรมอุทยานฯ เข้าดูแลแล้ว

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Tewan Somkun ได้โพสต์ภาพรอยเท้าสัตว์ลักษณะคล้ายหมี และยังมีร่องรอยคล้ายเล็บสัตว์บริเวณต้นไม้ รวมถึงต้นกล้วยที่ถูกทำลายจนหักโค่น พร้อมระบุข้อความ “มันยังยุ่เด้อชาวบ้าน ม.14 ระวังกันแน่เด้อพิกัดสวนลุงหนองสวนทิดเสริฐ” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้ถูกส่งต่อเป็นจำนวนมากจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และสร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้านในพื้นที่นั้น
 
วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ม.14 บ้านคุ้มเจริญ ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เพื่อตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าว กระทั่งพบกลุ่มชาวบ้านที่พากันพูดคุยนถึงเรื่องรอยเท้าสัตว์ใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายหมี พร้อมนำไปดูร่องรอยภายในสวนพันธุ์ไม้ซึ่งห่างจากถนนภายในหมู่บ้านเพียงเล็กน้อย

โดยรอยเท้าสัตว์ที่ทิ้งรอยเล็บไว้หลายจุด ส่วนบริเวณลำต้นของไม้ขนาดใหญ่ยังพบรอยเล็บขีดข่วนและร่องรอยการกัดแทะจนสร้างความเสียหายให้ต้นไม้และต้นกล้วยเป็นจำนวนมาก

เบื้องต้น ชาวบ้านคาดว่าน่าจะเป็นหมีที่เข้ามาวนเวียนหากินในพื้นที่หมู่บ้านนานกว่า 1 เดือนแต่ยังไม่มีเคยมีใครได้เห็นตัว


ชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า ทุกครั้งที่พบร่องรอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่มักจะได้ยินเสียงสุนัขเห่ากรรโชกเป็นเวลานานในช่วงเช้ามืด และเมื่อชาวบ้านออกมาตรวจสอบดูจะพบรอยเท้าทั้งบนพื้นดิน และต้นไม้ ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้เคยนำกรงมาดักไว้แต่ไม่พบตัว

เช่นเดียวกับที่ในวันนี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้ลงพื้นที่สำรวจร่องรอยจนเชื่อว่าน่าจะเป็นของ “หมีหมา” แต่ยังไม่สามารถฟันธงได้เพราะเนื่องจากยังไม่พบรอยขนหรือรอยมูลของสัตว์

เบื้องต้น ได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านระมัดระวังตัวเองโดยเฉพาะชาวสวนที่ต้องออกมาดูแลสวนในช่วงเช้ามืด โดยได้นำกรงดักสัตว์มาตั้งไว้บริเวณที่พบรอยเท้าสัตว์ครั้งล่าสุด ซึ่งหากสามารถจับตัวได้จะนำไปปล่อยคืนสู่แหล่งธรรมชาติต่อไป เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน

ขณะที่ นายเทวัญ สมคุณ อายุ 35 ปี ผู้ที่โพสต์ภาพและเรื่องราวดังกล่าวบอกว่า รอยเท้าสัตว์ดังกล่าวเพิ่งพบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาซึ่งจากการประสานไปยังเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ให้เข้ามาตรวจสอบคาดว่าน่าจะเป็น “หมีหมา” แต่ยังไม่สามารถสรุปได้เพราะยังไม่พบข้อบ่งชี้ 100%

แต่อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองและชาวบ้านไม่กล้าออกไปประกอบอาชีพภายในสวน เพราะเกรงว่าสัตว์ใหญ่ตัวดังกล่าวนั้นอาจจะยังวนเวียนอยู่ในพื้นที่