เพชนบุรี - เพชรบุรีขานรับนโยบายเคอร์ฟิว 21.00-04.00 น. ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน พร้อมกำหนดมาตรการควบคุมสูงสุดและเข้มงวด งดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ยกเว้นบางกิจกรรมสามารถดำเนินการได้แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข
เย็นวันนี้ (2 ส.ค.) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการ ร่วมประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรี ณ ห้องประชุม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี
นายภัคพงศ์ เปิดเผยว่า เพชรบุรีสนองนโยบายรัฐบาล หลังนายกรัฐมนตรีประกาศมาตรการปรับเขตพื้นที่ควบคุมสถานการณ์ ซึ่งจังหวัดเพชรบุรีเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00-04.00 น. จะเริ่มตั้งแต่ 00.01 น.ของวันนี้จนถึง 31สิงหาคม แต่หากมีความจำเป็นต้องออกนอกเคหสถาน สามารถขอเอกสารรับรองความจำเป็นได้ที่นายอำเภอหรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนยังคงรักษาระยะห่าง ไม่ไปสถานที่มีคนจำนวนมาก สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี หมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ น้ำสบู่อย่างสม่ำเสมอ และหากมีเหตุต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีได้แสดงความห่วงใยถึงมาตรการควบคุมเข้มอาจจะกระทบความเป็นอยู่กับของพี่น้องประชาชน กำชับนายอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่นทุกพื้นที่ สานแนวทางการป้องกันโควิด-19 เร่งสร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์ให้ตระหนักในการป้องกัน ดำเนินการตามมาตรการของสาธารณสุข สร้างความเข้าใจช่วงเวลาห้ามประชาชนออกนอกบ้านเป็นเรื่องจำเป็น ยกเว้นผู้ที่มีความจำเป็นและผู้ประกอบอาชีพบางประเภท
โดยต้องมีเอกสารรับรองเพื่อแสดงตนต่อเจ้าพนักงานประจำจุดตรวจต่างๆ และต้องไม่มีข้อจำกัดในการดูแลประชาชน พร้อมห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงในการแพร่โรค ในส่วนของสนามกอล์ฟ คณะกรรมการโรคติดต่อมีมติให้ปิดดำเนินการ ยกเว้นสนามกีฬาออกกำลังกายกลางแจ้ง สวนสาธารณะยังเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ออกกำลังกาย และระมัดระวังไม่อยู่กันหนาแน่น
ทางด้านนายแพทย์เพชรฤกษ์ แทนสวัสดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีเปิดเผยถึงการดูแลกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อเข้ารับการดูแลในโรงพยาบาล ขณะนี้มีประมาณ 170 กว่าคน สำหรับผู้ต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โทร.1330 ในส่วนการบริหารจัดการเตียงขณะนี้ สามารถรองรับทั้งคนไทยและแรงงานต่างชาติในพื้นที่ที่พร้อมดูแลพี่น้องประชาชน
