ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชไม่แผ่วเลย พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทะลักอีก 422 ราย อ.ปากช่องติดเชื้อมากสุด ตายวันเดียว 3 รายรวด สะสม 60 ศพ ยังรักษาอยู่ 3,787 ราย ด้านผู้การตำรวจสั่งเตรียมรถตราโล่รองรับภารกิจรับ-ส่งผู้ป่วยโควิดสีเขียว-สีเหลืองอ่อน หรือญาติผู้ป่วย
วันนี้ (1 ส.ค.) ศูนย์โควิด-419 โคราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมารายงานข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระลอกใหม่เมษายน ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาว่า ล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 422 ราย แยกเป็นเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 194 ราย รับผู้ป่วยกลับมารักษา 84 ราย สัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อในจังหวัด 144 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 7,051 ราย รักษาหาย 3,204 ราย ยังรักษาอยู่ 3,787 ราย มีผู้เสียชีวิตรายใหม่อีก 3 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 60 ราย
ผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 422 ราย แยกเป็นรายพื้นที่อำเภอดังนี้ อ.ปากช่อง 121 ราย เป็นอำเภอมีผู้ป่วยสะสมสูงสุดของจังหวัดฯ ถึง 1,391 ราย, อ.บ้านเหลื่อม 51 ราย, อ.บัวใหญ่ 46 ราย, อ.ปักธงชัย 29 ราย, อ.จักราช 25 ราย, อ.ครบุรี 21 ราย, อ.โชคชัย 21 ราย, อ.แก้งสนามนาง 19 ราย, อ.เสิงสาง 17 ราย, อ.ประทาย 16 ราย, อ.เมือง 12 ราย, อ.โนนแดง 10 ราย, อ.วังน้ำเขียว 10 ราย, อ.หนองบุญมาก 10 ราย, อ.บัวลาย 9 ราย, อ.ขามทะเลสอ 4 ราย และ อ.สีดา 1 ราย
สำหรับผู้ป่วยเสียชีวิตรายใหม่ 3 ราย รายแรกเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 58 ของจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้ป่วยโควิด-19 อันดับ 5,087 ราย เพศหญิง อายุ 65 ปี ชาว ต.โนนสำราญ อ.แก้งสนามนาง มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีประวัติเดินทางมาจาก กทม.วันที่ 25 ก.ค. 64 เข้ารักษา รพ.แก้งสนามนาง ผลตรวจติดเชื้อ ส่งต่อ รพ.มหาราชนครราชสีมา วันที่ 31 ก.ค. 64 อาการไม่ดีขึ้น เสียชีวิตเวลา 06.08 น.
รายต่อมาเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 59 ของจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้ป่วยโควิด-19 อันดับ 2,322 ของจังหวัดฯ เพศชาย อายุ 78 ปี ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ผู้สูงอายุ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 วันที่ 17 ก.ค. 64 ตรวจพบเชื้อที่ รพ.กรุงเทพฯ เข้ารับการรักษาที่ รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา มีอาการหนัก ส่งต่อ รพ.มหาราชนครราชสีมา วันที่ 31 ก.ค. 64 อาการไม่ดีขึ้น เสียชีวิตเวลา 21.45 น.
ส่วนอีกราย เป็นผู้ป่วยรายที่ 60 ของจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้ป่วยโควิด-19 อันดับ 3,151 ของจังหวัด เพศชาย อายุ 60 ปี ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ผู้สูงอายุ วันที่ 8 ก.ค. 64 เข้ารักษา รพ.มหาราชนครราชสีมา ผลตรวจติดเชื้อวันที่ 31 ก.ค. 64 อาการไม่ดีขึ้น เสียชีวิต 18.10 น.
ทางด้าน พล.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา กล่าวถึงการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่มีการกลับมารักษายังภูมิลำเนาในพื้นที่ จ.นครราชสีมาทั้ง 32 อำเภอ โดยเฉพาะรถของตำรวจและสายตรง 191 ว่า เรื่องนี้จริงๆ แล้วทุกภาคส่วน ทั้งตำรวจ ทหาร ปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต. อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็ดีได้ระดมสรรพกำลังดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล และมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนรถยนต์ของตำรวจเพื่อใช้บริการรับส่งพี่น้องประชาชนที่กำลังลำบากตกทุกข์ได้ยาก เป็นผู้ป่วยสีเขียว สีเหลืองอ่อนหรือญาติผู้ป่วย หรือคนไร้บ้านไร้ที่พึ่งนั้น เรื่องนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ตำรวจทุก สภ.เตรียมพร้อมไว้แล้ว แต่ในข้อเท็จจริงของ จ.นครราชสีมา กระทรวงสาธารณสุขยังสามารถรองรับภารกิจนี้ได้อยู่ แต่หากเกิดว่าปริมาณประชาชนที่ต้องรับ-ส่งเกินขีดความสามารถ ทางตำรวจเราพร้อมให้การสนับสนุนในการดำเนินการ ตนเชื่อว่าทางทหารก็เตรียมการแล้วเช่นกัน
ส่วนการเฝ้าติดตามเรื่องการปล่อยข่าวปลอมต่างๆ นั้น เรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญอยู่แล้ว ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจภูธรภาค 3, ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้มีหน่วยในการเฝ้าติดตามด้วยการชี้แจงข่าวสาร ถ้าเป็นเฟกนิวส์เราก็ดำเนินการดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสถานการณ์โควิดระบาดรุนแรงและมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินการจับกลุ่มมั่วสุมในพื้นที่ จ.นครราชสีมาห้วงนี้น้อยมาก ตำรวจมีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ทั้งกำชับสายตรวจ สายสืบ ออกตรวจสอบติดตามร่วมกับฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ผู้นำชุมชน ทำให้ในห้วงนี้แทบจะไม่มีในพื้นที่เรา
ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มข้น เว้นระยะ หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากตลอดเวลา รับประทานอาหารแยกกัน สำหรับผู้ใต้บังคับบัญชารวมทั้งรอบครัวตำรวจ ตนก็ได้กำชับในการป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งทาง พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 รวมถึงผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 3 ทุกนาย รวมทั้งตนมีความห่วงใยและกำชับกันทุกสัปดาห์ เพราะอาชีพตำรวจต้องให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าติดสักนายอาจต้องถูกกักตัว และเชิญชวนข้าราชการตำรวจและครอบครัวพยายามฉีดวัคซีนให้มากที่สุด ปัจจุบันก็ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่